โอละพ่อ เด็กอู่ทำสีโทรมาสารภาพรถหาย ที่แท้หุ้นส่วนเจ้าของรถเอาไปไม่บอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.พนัชกร อายุ 47 ปี เจ้าของกิจการเต็นท์รถยนต์มือสอง อ.เมือง จ.ระยอง เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ว่าได้นำรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค รุ่นfd สีขาว คันหนึ่ง เข้าทำสีที่อู่ซ่อมสี แห่งหนึ่งในเขตตำบลห้วยโป่ง ที่กำหนดไว้ 1 เดือนจะแล้วเสร็จ แต่ปรากฏว่ามีคนมาเอารถออกไปจากอู่โดยไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของอู่ซ่อมสี ที่ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง
น.ส.พนัชกร หรือ เจ้สาว ได้เผยว่า วานนี้เวลาประมาณ 15.00 น.มีเด็กอู่ซ่อมสี ที่ตนเอารถไปทำสีไว้ ได้โทรศัพท์เข้ามาหาตน แจ้งว่า "เจ้ครับ ผมเกิดเอะใจหลังให้กุญแจรถคนแปลกหน้าที่มาบอกเป็นเจ้าของรถคันที่เจ้เอามาซ่อมสี แล้วเขาก็ขับรถออกจากอู่ซ่อมสีหายไปนานแล้วไม่กลับมา ผมจึงรีบโทรศัพท์บอกเจ้ว่ารถหายไปแล้วครับ"
ในขณะนั้น เจ้สาวเมื่อทราบเรื่องในสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตกใจมาก แฟนก็ไม่อยู่ไปเอารถที่ต่างจังหวัดยังไม่กลับมา และไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงรีบไปที่อู่ซ่อมสีเพื่อสอบถามในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งในขณะที่สอบถามที่อู่ซ่อมสีก็ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบกับรถยนต์ที่หายไป
เจ้สาว เผยอีกว่า เมื่อไม่มีใครรับผิดชอบจึงรีบเดินทางเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ให้ช่วยติดตามรถยนต์ที่หายไปให้ด้วย และขอดำเนินคดีกับเจ้าของอู่ซ่อมสีให้ถึงที่สุด ที่ทำให้รถยนต์ของตนหายไปทั้งที่จอดอยู่ในอู่
ต่อมาไม่นานหลังแจ้งความดำเนินคดีผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนรู้จักกันก็เอารถมาคืนพร้อมบอกเอาไปให้ลูกค้าดูเท่านั้น และขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องเลยกลับตาลปัตรโอละพ่อ
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ต้องโทษที่อู่ซ่อมสีรถ ให้รถเขาไปได้อย่างไร โดยไม่บอกเจ้สาวที่เป็นเจ้าของรถก่อน ทำเอาทุกคนตกใจ เจ้สาวถึงกับผวาในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายเจ้สาวหลังทราบเรื่องราวก็ได้ยอมถอนแจ้งความในการดำเนินคดีกับอู่ซ่อมสีดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ชวลิต ผลพัฒนาสกุลชัย รองสารวัตร (ปราบปราม) สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่าหลังผู้เสียหาย หรือ เจ้สาว หลังทราบว่าหุ้นส่วนของเต็นท์รถที่ทำธุรกิจร่วมกัน ให้คนมาเอารถไปให้ลูกค้าดู ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นขอฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนอู่ซ่อมรถซ่อมสี ต้องรอบครอบกว่านี้สักนิดก่อนจะปล่อยรถให้ลูกค้าไป
ควรตรวจสอบให้ดี ว่าคนที่มาอารถเขาเป็นใคร เป็นเจ้าของรถหรือไม่ ตรวจสอบเอกสารให้ถี่ถ้วน หรืออย่างน้อยโทรศัพท์ถามเจ้าของรถเพื่อความแน่ใจจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะเกือบซวยจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ได้ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นความโชคดีของทุกคน ที่รถยนต์ไม่ได้หายไป จึงขอฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ในกรณีลักษณะกับอู่รถยนต์ต่างๆ นี้ด้วย