สะพรึง! หนุ่มถ่ายพยาธิตัวตืดยาว 4 เมตร เตือนภัยชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ

สะพรึง! หนุ่มถ่ายพยาธิตัวตืดยาว 4 เมตร เตือนภัยชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ

สะพรึง! หนุ่มถ่ายพยาธิตัวตืดยาว 4 เมตร เตือนภัยชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มอ่างทองวัย 30 ปี โพสต์คลิปในเฟซบุ๊กเตือนภัย ภาพพยาธิขนาดยาว 4 เมตร เพื่อเตือนภัยคนที่ชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ จนทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องสะพรึง

ผู้โพสต์ได้เล่าว่า มีอาการปวดท้องน้อย และคันบริเวณทวารหนัก พร้อมถ่ายออกมาเป็นพยาธิกว่า 10 รอบ จึงตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์ แพทย์ได้ตรวจอาการและพบว่าพยาธิเป็นพยาธิตัวตืด จากนั้นได้รับยามากินที่บ้าน หลังจากกินยาพบว่าตนได้ถ่ายออกมาเป็นพยาธิ ตนจึงนำมาทำความสะอาด และลองนำมาวัดความยาว พร้อมบันทึกภาพและโพสต์เพื่อเตือนเพื่อนๆ ให้ระวัง เพราะตนเป็นคนชอบกินอาหารสุกๆ ดิบๆ ซึ่งได้รับความสนใจและมีผู้คนที่พบเห็น แชร์ส่งต่อๆ กัน

ด้านนางพงศ์พร ครองญาติ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง ได้ชี้แจงว่า โดยปกติพยาธิตัวตืดที่พบเจอ จะเป็นพยาธิตัวตืดหมู ตัวตืดวัว ตัวตืดควาย ซึ่งจะเป็นพยาธิตัวแบน มีสีขาวมีลักษณะเป็นปล้องๆ ที่ผ่านมาที่เคยพบเจอพยาธิชนิดนี้ซึ่งสามารถอาศัยอยู่ในลำไส้คนมีความยาวถึง 15 เมตร และพยาธิชนิดนี้สามารถขยายพันธุ์ได้ในร่างกายคน จะฝังตัวในลำไส้ และเคลื่อนไหวไปอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้าไปอยู่บริเวณสมอง จะไปกดเส้นประสาท

สาเหตุของการที่มีพยาธิตัวตืดในร่างกายเกิดจากการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด การกินอาหาร หมู เนื้อวัว เนื้อควาย ที่ปรุงไม่สุก เช่น แหนม ลาบ ก้อย โดย ตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด จะพบในเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย จะมีลักษณะเหมือนเม็ดสาคู การป้องกัน อย่ากินอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารทุกชนิดที่ปรุงจากเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย ต้องทำให้สุก น้ำดื่มต้องเป็นน้ำดื่มที่สะอาด และการล้างทำความสะอาดมือทุกครั้งที่มีการรับประทานอาหาร และเวลาซื้อ พวกเนื้อสัตว์มาทำอาหารให้สังเกต ถ้ามีลักษณะเหมือนเม็ดสาคูฝังอยู่ในเนื้อ ให้ทิ้งทันทีไม่ควรนำมารับประทาน

ส่วนการรักษาในขณะนี้ ทางการแพทย์ มีตัวยาที่สามารถรักษา ฆ่าพยาธิตัวตืด โดยตัวยาจะไปทำลายผิวนอกของพยาธิ และทำให้พยาธิเป็นอัมพาต และถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกาย ยกเว้นกรณีที่พบว่า พยาธิตัวตืดเข้าไปแพร่กระจายในสมอง ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook