ลุงร่ำไห้ถูกพรากสุนัข 3 ตัว หลังมีคลิปหลุดใช้ไม้ฟาด “ว็อชด็อก ไทยแลนด์” รับช่วงดูแลต่อ

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (16 ส.ค .61)  เวลา 19.00 น. โลกโซเชียลแชร์คลิปลุงคนหนึ่งลงเพจคนรักหมา ที่กำลังใช้ไม้ตีสุนัข หลายครั้ง จนสุนัขร้องด้วยความเจ็บปวด จนชาวโซเชียลพากันแชร์กระหน่ำพร้อมโพสต์ข้อความโจมตีจำนวนมาก

โดยระบุข้อความว่า “คนเหี้ย 2018 จัดการยังไง บ้านหลังนี้ชอบเอาหมามาเลี้ยงก็ตีจนตายไปหลายตัว กลับมาบ้านแล้ว เจอแบบนี้ทุกครั้งรับไม่ได้จริงๆ ย้ำว่า หลายตัวแล้ว บางตัวลากไปแขวนคอที่น้ำมูลก็ตีจนตาย  ม.7 อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ช่วยแชร์หน่อยค่ะ ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย อย่าดราม่าน่ะค่ะ  ตำรวจที่ไม่สนใจต้องแจ้งมูลนิธิอะไรไม่ทราบจริงๆ แนะนำหน่อยค่ะ จะกลับพรุ่งนี้แล้ว คนเมาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ค่ะ”

จากนั้น วันนี้ ( 17 ส.ค. 61)  เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยัง สภ.ท่าตูม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี  โดยมีหญิงรายหนึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อและไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธีระพล  เพิ่มพูล สว.สอบสวน. สภ.ท่าตูม  สารวัตรเวรเจ้าของคดี ในข้อกล่าวหา ทารุณกรรมสัตว์ พร้อมเรียกตัว คุณลุงลวย  อายุ 65 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์  ซึ่งเป็นชายที่ปรากฏในคลิปตีสุนัข มาสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยคุณลุงลวย  ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนั้น  เป็นสุนัขเพศผู้สีน้ำตาลที่ชื่อ  “เจ้าโชค”  อายุ 4 ปี  ตนใช้ไม้ตีแต่ไม่แรงมาก  เพื่อสั่งสอนเขา  ที่กัดไก่ชนตาย  แต่ไม่ได้ตีเป็นประจำตามที่เป็นข่าว ตนก็รักสุนัขของตน  ตนเลี้ยงทั้งหมด 3 ตัว  ตัวแรกคือ เจ้าโชค  อายุ 4 ปี ตัวที่ 2 ชื่อ เจ้าสิงห์  อายุ 2 ปี และ ตัวที่ 3 ชื่อเจ้าบ็อก อายุประมาณ 4 เดือน

ตนอาบน้ำให้ทุกวัน ให้ข้าวกินก่อนคนอีก วันละ 2 มื้อ เช้าเย็น  ส่วนที่มีคนว่า ตนเอาหมาใส่ถุงปุ๋ยโยนลงแม่น้ำมูลและใช้เชือกรัดคอตีจนตายนั้น ไม่เป็นความจริง ตนสาบานได้ว่าไม่เคยฆ่าสุนัข  ส่วนเรื่องตีก็มีบ้างเวลามันดื้อมันซน  ไปดูที่บ้านตนได้เวลาตนกลับบ้านทุกตัวก็จะวิ่งมากอดและเล่นกับตนทุกครั้ง  

ส่วนสุนัข 2 ตัวที่ตายก่อนหน้านี้หลายเดือน มีอยู่ 2 ตัว ถูกรถชน เนื่องจากบ้านอยู่ติดถนนลาดยาง สามารถถามเพื่อนบ้านได้  ตลอด 40 กว่าปี ตนเลี้ยงหมามาตลอดไม่เคยคิดทำร้ายหรือฆ่ามันอย่างที่ในโลกโซเชียลโจมตีและกล่าวหาตนเองฝ่ายเดียว

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว มีคนแจ้งความ อยู่ที่เจ้าหน้าที่ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าจะต้องเอาสุนัขไปตนก็ยินยอมและจะให้ไป  แต่ตนก็รักหมาของตน  หมาที่ตนเลี้ยงมีแต่คนให้มา ตนสงสารจึงนำมาเลี้ยง  ส่วนที่ตนล่ามก็เพราะเวลาไม่อยู่บ้าน กลัวถูกรถชน และเจ้าโชคก็ดุ เป็นพันธุ์บางแก้ว กลัวไปกัดชาวบ้าน ใครจะรับผิดชอบ  เวลากลับมาบ้านตนก็ปล่อย และจะนำมาขี้เยี่ยวหน้าบ้านทุกวัน แต่วันที่ตี ตนก็ตีสั่งสอนว่ากัดไก่ทำไม  ผมพูดตรงๆ ถ้ามีคนเอาหมาตนไปหรือพรากมันไป ตนก็คิดถึงมัน คงกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่ๆ 

จากนั้น คุณลุงลวย  หลังให้ จนท.ตำรวจสอบปากคำเสร็จ ถึงกับออกมานั่งเข่าฟุบร้องไห้ที่บันไดทางขึ้น สภ.ท่าตูม  อย่างน่าเวทนา ที่สุนัขตนเองจะถูก จนท.ของ WDT.หรือ “ว็อชด็อก ไทยแลนด์” จะส่งเจ้าหน้าที่มารับสุนัขทั้ง 3 ตัว  ของตนเองไปดูแล  

จากนั้นคุณลุงลวย ได้นำ นายนพดล  สุภัควรกุล  รักษาการปศุสัตว์ อ.ท่าตูม  พร้อมกับสื่อมวลชน เข้าไปดูสภาพการเป็นอยู่ที่บ้าน  พบว่าบ้านของลุงเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใต้ถุนสูง ฐานะยากจน อาศัยอยู่กับภรรยาซึ่งอายุมากแล้วเช่นกัน มีอาชีพเก็บผักไปขายในตลาดสด  

ส่วนคุณลุงลวย มีอาชีพเป็นกรรมกรรับจ้างก่อสร้าง และพบสุนัขทั้ง 2 ตัว ถูกล่ามโซ่ไว้ใต้ถุนบ้าน ร่างกายของสุนัขทั้ง 3 ตัวโดยรวมอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพดี ไม่พบว่าผอมแห้งโซแต่อย่างใด  แถมยังกระโดดกอดเล่นและเลียกับคุณลุงด้วยความรักทั้ง 3 ตัว แต่กลับไม่พบอาการหวาดระแวงหรือหวาดกลัวคุณลุงแต่อย่างใด  ต่างจากสุนัขที่เคยถูกทารุณกรรมตามภาพที่เป็นข่าว มักจะหวาดระแวงและหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เจ้าของที่ทำร้ายมันแต่อย่างใด

ขณะที่ นางจันทร์เพ็ญ อายุ 64 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่บ้านตรงข้ามกัน เปิดเผยว่า เท่าที่เห็นคุณลุงลวย ก็เลี้ยงดูและรักสุนัขดี  ส่วนเรื่องของการตีก็มีบ้าง เวลาสุนัขดื้อ ส่วนสุนัข 2 ตัวก่อนหน้านี้ ตนก็เห็นว่า รถยนต์ชนตาย 2 ตัว ซึ่งถูกชนตัวละวันเวลา ห่างกันหลายเดือนและนับปีได้ แกไม่ได้ตีสุนัข 2 ตัวดังกล่าวตายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม  คุณลุงลวย   ยังได้ขอโทษประชาชนที่ภาพที่ออกไปเป็นภาพที่รุนแรง ทั้งที่จริงไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น และขอโอกาสทั้งน้ำตาอีกว่า หากเป็นไปได้ตนจะขอเลี้ยงสุนัขทั้ง 3 ตัวเอง  ภาพที่เห็นหรือข่าวที่ออกไปมันอาจจะเป็นภาพที่รุนแรงไป อยากให้สังคมฟังตนเองบ้าง  ตนก็รักสุนัขของตน ถ้ามันไปคงกินไม่ได้ นอนไม่หลับ และหากว่าตนทำร้ายหรือตีมันอีก ตนก็จะยินยอมให้ดำเนินคดีเด็ดขาด และนำตนไปติดคุกได้เลย

ซึ่งทางรักษาการปศุสัตว์อำเภอและสื่อมวลชน ก็เห็นภาพที่เกิดขึ้น  ระหว่างคุณลุงกับสุนัข ที่มีความรักและผูกพันธ์กัน ต่างจากภาพและกระแสที่ปรากฏอย่างมาก  จึงพร้อมเป็นพยาน และได้บันทึกเสียงของคุณลุงไว้เป็นหลักฐาน และ เตรียมจะร่างข้อสัญญาและข้อตกลงต่างๆ  ตามที่คุณลุง  ร้องขอโอกาสดูแลสุนัขต่ออีกครั้ง ตามหลักมนุษยธรรม  และจะติดตามความคืบหน้าโดยตลอด หากคุณลุงทำผิดข้อตกลงอีก จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับคุณลุงอย่างเด็ดขาดตามข้อตกลง  

ซึ่ง จนท.ตำรวจก็เข้าใจ และที่ผ่านมาตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่ได้ ไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด  แต่ต้องปรึกษากับฝ่าย กฏหมายของ WDT.หรือ ว็อชด็อก ไทยแลนด์ ก่อน  จากนั้น ทางรักษาการปศุสัตว์อำเภอท่าตูม จึงโทรศัพท์ปรึกษากับฝ่ายกฏหมายของ WDT.หรือ ว็อชด็อก ไทยแลนด์  ซึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อกับสื่อมวลชน  

โดยได้รับการยืนยันว่า จะต้องดำเนินคดีกับคุณลุงอย่างเต็มที่ ตามกฏหมายของการทารุณกรรมสัตว์ และกำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปรับสุนัขทั้ง 2 ตัว  ไปดูแล  ซึ่งคุณลุงลวย ถึงกับนั่งซึมและร้องไห้อีกครั้งที่รู้ว่า การเจรจาไม่เป็นผล และสุนัขทั้ง 3 ตัว ที่ตนเองรักกำลังถูกพรากไปดังกล่าว