สาวแบงก์หนังเหนียว-ขับเก๋งเฉี่ยวรถบรรทุกหมุนฟาดเสาไฟร่วงใส่กระบะอีกคัน ปาฏิหาริย์ไร้เจ็บตาย

( 10 ส.ค. 61 ) เวลา 14.00 น.  ร.ต.อ.บัณฑิต ทรัพย์คง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนกับรถยนต์เก๋งจนทำให้มีเสาไฟส่องสว่างล้มลงมาทับรถยนต์กระบะอีก 1 คัน ที่บริเวณใกล้จุดยูเทิร์นกลับรถปั๊มน้ำมันบางจาก ถนน 314 (สิริโสธร) ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังเกิดเหตุทำให้การจราจรทั้งสองด้านติดขัดอย่างหนัก

ที่เกิดเหตุด้านฝั่งขาเข้าพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า ยาริส สีดำหมายเลขทะเบียน กฉ-4393 ปราจีนบุรี จอดนิ่งขวางลำอยู่ที่กลางถนนในเลนด้านขวาสุด สภาพยางล้อหลังด้านซ้ายแตก ตัวรถด้านขวาตั้งแต่บังโคลนด้านหน้าไปจนถึงบานประตูหลังมีรอยครูดถากยาวยุบเป็นทาง คิ้วกันชนด้านหน้าหลุด กระโปรงและกันชนหลังด้านซ้ายมีรอยถูกชนกระแทกจนได้รับความเสียหายยุบรอบคัน

ที่ด้านหลังห่างจากตัวรถมาประมาณ 2 เมตร บนเกาะกลางถนนมีเสาไฟฟ้าล้มลงไปฟาดเข้ากับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌธ-2065 กทม.จนทำให้ฝากระโปรงหน้ายุบเสียหายจอดอยู่ในเลนที่ 2 ช่องกลางถนนจากทั้งหมด 4 เลน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปตามเส้นทางขาเข้าประมาณ 200 เมตร พบรถยนต์บรรทุกพ่วงแบบมีถังพ่วงบรรทุกปูนขนาดใหญ่ หมายเลขทะเบียนหัวลาก 61-7819 กทม. ทะเบียนหางพ่วง 61-8071 กทม. จอดแอบอยู่บนเลนด้านซ้ายสุดของถนน สภาพด้านหน้าที่หัวมุมด้านซ้ายและด้านขวามีร่องรอยของการเฉี่ยวชน

สอบถาม น.ส.วรรณิสา อายุ 33 ปี ชาว ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานของสถาบันการเงินในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา (เฟิร์สช้อยส์) คนขับรถเก๋งเล่าว่า ได้ขับรถออกมาจากสำนักงานสาขา ภายในห้างโรบินสันฉะเชิงเทรา มาตามเส้นทางในเลนด้านซ้ายเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ  รถพ่วงคันคู่กรณีที่ขับอยู่บนถนนในเลนกลางได้ขับเบียดเข้ามาหาและเฉี่ยวชนตัวรถของตนทางด้านขวา

กระทั่งตัวรถถูกแรงกระแทกชนหมุนไปตามเส้นทางด้านหน้าหลายตลบ ก่อนที่จะถูกรถพ่วงคันคู่กรณีชนซ้ำที่ด้านท้ายรถทางซ้ายอีกครั้ง จนยางแตกระเบิดและตัวรถได้เหวี่ยงปลิวขึ้นไปฟาดถูกเสาไฟฟ้าที่อยู่บนเกาะกลางถนนจนเอนลง ก่อนที่จะกระเด็นตกลงมาหยุดนิ่งขวางอยู่กลางถนนบนเลนด้านขวาดังกล่าว แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไร แต่ตัวรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก น.ส.วรรณิสา กล่าว

ด้าน นายอุไร คนขับรถบรรทุกพ่วง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถรับผงเถ้าสำหรับผสมปูนมาจาก จ.ระยอง เพื่อจะนำไปส่งยังที่ จ.เชียงราย เมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียวจากบริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟหน้าห้างโรบินสัน จึงได้ขับรถมาตามเส้นทางในเลนกลาง เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุห่างจากแยกสัญญาณไฟมาประมาณ 400 เมตรแล้วจึงจะเปลี่ยนไปเข้าเลนซ้าย แต่มองไม่เห็นรถเก๋งที่ขับแซงมาเร็วในช่องทางด้านซ้ายเพราะรถเก๋งขับไปอยู่ในตำแหน่งใต้กระจกหน้าซ้ายพอดีจึงมองไม่เห็น และเกิดการชนกันขึ้นดังกล่าว นายอุไร กล่าว

ขณะที่ นายพรชัย อายุ 33 ปี ชาว ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ คนขับรถยนต์กระบะ ที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับกล่าวว่า หลังจากไปติดต่อทำธุรกรรมยังที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแล้ว ได้ขับรถมาตามเส้นทางขาออกเพื่อที่จะไปยัง อ.บางคล้า เมื่อมาถึงยังที่เกิดเหตุได้เห็นเสาไฟเอียงและเอนล้มลงมาซึ่งตนได้พยายามเบรกหยุดรถแล้วแต่ไม่ทันก่อนถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ

ส่วนรถยนต์เก๋งคันหน้านั้นรอดผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด โดยในขณะเกิดเหตุนั้นมีรถกำลังใช้ถนนอยู่เต็มเส้นทางไม่สามารถที่จะหักหลบไปให้พ้นทางไหนได้ นายพรชัย กล่าว