อดีตพ่อตาภรรยาเก่า "ไอ้โก้" มือฆ่าไฮโซเชอร์รี่ เข้าพบให้ข้อมูลตำรวจ

อดีตพ่อตาภรรยาเก่า "ไอ้โก้" มือฆ่าไฮโซเชอร์รี่ เข้าพบให้ข้อมูลตำรวจ

อดีตพ่อตาภรรยาเก่า "ไอ้โก้" มือฆ่าไฮโซเชอร์รี่ เข้าพบให้ข้อมูลตำรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อดีตพ่อตา "ไอ้โก้" มือฆ่าไฮโซเชอร์รี่ พร้อมกับภรรยาเก่า โร่เข้าพบตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ เพราะแยกทางกันเป็นปีแล้ว

นายดำ (นามสมมุติ) อดีตพ่อตา นายอัศยา หรือ โก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จากกรณีพบศพคนสนิท น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอร์รี่ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อดีตภรรยานายอัศยา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย

นายดำ กล่าวเพียงสั้นๆว่า เป็นอดีตพ่อตาของคนร้าย และไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น หากคนร้ายดูข่าวนี้อยู่ ขอให้เข้ามาตัวโดยด่วน เพราะสงสารครอบครัวของผู้ตาย

ขณะที่ น.ส.แก้ว(นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตภรรยาของคนร้ายจริง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกัน ก่อนจะเลิกรากันไปประมาณ 1 ปี เพราะคนร้ายมีคนอื่น หลังจากนั้นก็ติดต่อกันเรื่องลูกเท่านั้น

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนขอไม่ตอบ เนื่องจากให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว และผู้ตายเองก็ทราบว่าตนเป็นภรรยาเก่าคนร้ายที่เคยอยู่กินกันมา แต่ก็ยืนยันที่จะคบหากัน ตนจึงถอยออกมา ส่วนเรื่องติดพนันนั้น ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคนร้ายไม่เคยมีพฤกติกรรมเช่นนั้น หากคนร้ายยังติดตามข่าวนี่อยู่ ขอให้เข้ามอบตัวกันเจ้าหน้าที่ เพราะตนยังอยากให้คนร้ายมีชีวิตอยู่ และยืนยันว่าจะพาลูกไปเยี่ยมแน่นอน

ทางด้าน พล.ต.ต ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เปิดเผยว่า ถ้าคนร้ายยังหลบหนีอยู่ก็ขอให้มอบตัว เพราะขณะนี้ทางชายแดนมีการตั้งเงินรางวัลในการนำจับ 50,000 บาทแล้ว ส่วนทรัพย์สินที่หายไปทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้

ส่วนญาติของผู้ตายจะเข้ามามอบพยานหลักฐานชิ้นใหม่หรือไม่นั้น ก็จะต้องตกลงกันอีกที เพราะญาติแจ้งว่าติดเรื่องฌาปนกิจในวันอาทิตย์นี้ และหากภรรยาเก่าของคนร้ายมีการกดเงินมาใช้ ก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วย ซึ่งจากการสอบถามภรรยาของคนร้าย ทราบว่าคนร้ายติดต่อมาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 โดยบอกให้ดูแลลูกด้วย จึงเกรงว่าจะเครียดถึงขั้นทำร้ายตัวเอง

ส่วนน้องชายของคนร้ายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกให้มาพบภายในวันนี้แล้ว หากไม่มาก็จะมีการดำเนินคดี และหากพบว่าการก่อเหตุเช่นนี้กระทำเป็นขบวนการก็จะออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป แต่ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน

ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายได้ย้ายออกจากที่พักในโรงแรมที่ประเทศกัมพูชาแล้ว และคาดว่าจะหลบหนีไปที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิด ส่วนชายนิรนามที่เดินตามตนร้ายนั้น คาดว่าน่าจะเป็นน้องชาย แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อออกหมายเรียกต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook