มวยวัด! ญาติโยมสาวหมัดไม่ยั้ง เหตุความเห็นไม่ลงรอยจัดสร้างที่พักสงฆ์

หลังมีคลิปภาพญาติโยมก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในศาลาที่พักสงฆ์ วัดอุทิศประชาราม (พระเจ้าน้อย) ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่  จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 กรกฎาคม  ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวที่เผยแพร่ออกไป ระบุว่า  บุคคลที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายชาวบ้าน 2 ราย เป็นลูกศิษย์ของวัดดังกล่าว

ล่าสุด ( 26 ก.ค. 61 )  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ  วัดอุทิศประชาราม (พระเจ้าน้อย)  พบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง  เดินทางมาพบกับพระครูสมุห์เสณะ สุวิโช เจ้าอาวาส เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีนายสุเมธ กิ่วคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสารวัตรกำนัน  ร่วมรับฟัง

ทั้งนี้พระครูสมุห์เสณะ  ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุมีชาวบ้าน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ต้องการขับไล่อาตมาให้ออกจากวัด และญาติโยมที่เป็นโยมอุปถัมภ์วัด ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ จู่ๆ  นายฟ้ารุ่ง ชาวบ้านที่จะมาเชิญอาตมาออกจากวัด โมโหที่นางบุปผา  อายุ 59 ปี  ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดจาไม่เข้าหู จึงตรงเข้าไปกดศีรษะ  ทำให้นายจรูญ  อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายที่นั่งอยู่กับพื้น ลุกขึ้นยืนเพื่อจะเข้าไปช่วยน้องสาว แต่นายฟ้ารุ่งกลับตกเข้ามาต่อยนายจรูญแบบไม่ยั้งมือ จนนายจรูญล้มลงกับพื้น ก่อนที่ชาวบ้านคนอื่นจะจับทั้งคู่แยกกัน

ขณะที่นายจรูญซึ่งได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก ได้เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสันป่าตอง โดยแพทย์ให้นอนดูอาการ 1 คืน และหลังจากออกโรงพยาบาลแล้วนายจรูญได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายฟ้ารุ่งในข้อหาทำร้ายร่างกาย

พระครูสมุห์เสณะ ยืนยันว่า  ชาวบ้านที่ก่อเหตุไม่ใช่ลูกศิษย์ของวัดแต่อย่างใด ข่าวที่เผยแพร่ออกไปทำให้อาตมาได้รับความเสียหายอย่างมาก จึงอยากให้สังคมช่วยฟังความทั้งสองข้าง

ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น  เพราะมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งไม่พอใจที่อาตมาเข้ามาตั้งที่พักสงฆ์ในพื้นที่ โดยอ้างว่า วัดสร้างในพื้นที่ป่าชุมชน  พระสมุห์เสณะ ชี้แจงว่า แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสาธารณะ ต่อมาป่าไม้ได้เข้ามากั้นพื้นที่ป่าสาธารณะหมู่บ้านให้เป็นที่ดินของวัดอุทิศประชาชาราม จำนวน 13 ไร่ 3 งาน 18 ตารางวา โดยมีชาวบ้านกว่า 200 ราย ลงนามเพื่อถวายที่ดินให้กับเจ้าอาวาสวัดดอยสุเทพวรวิหาร ก่อนจะมอบหมายให้อาตมาเข้ามาพัฒนาและดูแล เพื่อเตรียมก่อตั้งเป็นวัดต่อไป

ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องกับสำนักงานที่ดิน เพื่อทำให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนจะยื่นขอจัดตั้งเป็นวัด ปัจจุบันที่แห่งนี้ยังมีสถานะเป็นที่พักสงฆ์หรืออาราม แต่ก็มีชื่อว่าวัดทิศประชาราม  ซึ่งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ก็รับทราบแล้ว   ส่วนพื้นที่ละแวกนี้เดิมไม่มีราคาค่างวด แต่หลังความเจริญเข้ามา ชาวบ้านบางกลุ่มจึงอยากเข้ามาครอบครองที่ดิน

สำหรับพื้นที่อำเภอสันป่าตองมีวัดอยู่หลายร้อยแห่ง ส่วนหนึ่งก็เป็นที่พักสงฆ์ และสำนักสงฆ์อยู่จำนวนมาก  ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ตั้งใจจะสร้างเป็นวัดเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในละแวกนี้

ด้านนายสุเมธ กิ่วคำ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า   ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ก็รีบมาระงับเหตุและไกล่เกลี่ย แต่ชาวบ้านที่ก่อเหตุก็ไม่ยอมฟัง  ส่วนสาเหตุทราบเพียงว่า ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจะมานิมนต์ให้พระออกจากวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพบว่า ในพื้นที่รอบที่พักสงฆ์ หรือวัดอุทิศประชาราม มีบ้านเรือนของชาวบ้านตั้งอยู่หลายหลัง และมีถนนสาธารณะเข้ามาภายในพื้นที่