กระบะขนน้ำชนรถไทยแลนด์ ขณะขับข้ามเลนเพื่อกลับรถ ดับ 1 คนเจ็บอื้อ

กระบะขนน้ำชนรถไทยแลนด์ ขณะขับข้ามเลนเพื่อกลับรถ ดับ 1 คนเจ็บอื้อ

กระบะขนน้ำชนรถไทยแลนด์ ขณะขับข้ามเลนเพื่อกลับรถ ดับ 1 คนเจ็บอื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 61 พ.ต.ท.สันติชัย อินเรือน สว. (สอบสวน) สภ.เมือง อุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าที่ถนนทางหลวงหมายเลขที่ 11 อุตรดิตถ์-เด่นชัย ห่างจากจุดกลับรถประมาณ 20 เมตร ต.ป่าเซ่า อ.เมือง มีอุบัติเหตุรถชนกัน

จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองทราบ และรีบรุดไปที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกู้ภัยวัดหมอนไม้ และแพทย์เวร รพ.อุตรดิตถ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถไทยแลนด์ ทะเบียน ฆข-2948 อุตรดิตถ์ พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าในร่องน้ำเกาะกลางถนนเส้นดังกล่าว มีคนติดอยู่ในรถ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบพลิกรถเพื่อช่วยเหลือ พบว่านายดอน อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถไทยแลนด์และนางบังอร อายุ 54 ปี ที่นั่งมาด้วยกันถูกรถไทยแลนด์ทับร่าง จึงนำทั้งสองคนออกมาและนำตัวส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์

ในเวลาต่อมา นายดอนทนผิดบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพราะที่ศีรษะถูกรถทับ คอหัก เลือดไหลออกอยู่ตลอดเวลา ส่วนนางบังอร ภรรยา บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ห้องฉุกเฉิน

ห่างจากรถไทยแลนด์ประมาณ 52 เมตร มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ทะเบียน ฒค-8699 กทม. ซึ่งมีนายอดิศร อายุ 39 ปี (คนขับ) เสียหลักตกลงเกาะกลางน้ำ หลังชนท้ายรถไทยแลนด์คันดังกล่าว

สภาพรถตะแคงข้าง น้ำดื่มที่บรรทุกมาตกกระจายเต็มพื้นถนน ภายในรถยังพบ น.ส.พิมพิมล อายุ 18 ปี, ด.ช.พงพิพัฒน์ อายุ 1 ปี, ด.ญ.ทิพวรรณ อายุ 4 ปี, นายอุดมศักดิ์ อายุ 24 ปี และน.ส.เบญจมาศ อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่งรพ.อุตรดิตถ์

นายอดิศร อายุ 39 ปี (คนขับ) ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้บรรทุกน้ำดื่ม เพื่อที่จะไปส่งที่จังหวัดแพร่ มาเต็มคันรถ พร้อมญาติๆ ก็นั่งมาด้วยกันรวมตนด้วย จำนวน 6 คน

พอมาถึงที่เกิดเหตุขณะที่ตนวิ่งเลนขวามาตลอด อยู่ๆ รถไทยแลนด์ที่รถของตนชนท้ายนั้น ขับออกมาจากเลนซ้ายออกมายังเลนขวาตัดหน้ารถของตน เพื่อจะยูเทิร์นไปอีกฝั่ง ตนบังคับรถไม่อยู่จึงชนท้ายรถไทยแลนด์พลิกคว่ำ

สารวัตรเจ้าของคดีสันนิษฐานในเบื้องต้น จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่ารถไทยแลนด์คาดว่าจะขับตัดหน้าเพื่อยูเทิร์น แต่เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จะรวบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook