แม่จุดธูปสะอื้น "ขอร่างลูกคืน" คลื่นทะเลระยองกลืนเด็กหายไปกับตา
(8 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำมูลนิธิสว่างพรกุศล ระยอง ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำที่บริเวณหาดแสงจันทร์ ระยอง จุดเกิดเหตุที่บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถ.เลียบชายหาด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วรุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบญาติๆ และแม่ของเด็กที่สูญหายอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ นั่งรอความหวังด้วยน้ำตานองหน้าและเสียงร่ำไห้ที่ไม่ขาดสายของการสูญหายของลูกชายอันเป็นสุดที่รัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพร ระดมนักประดาน้ำจำนวนหนึ่งและอุปกรณ์ พร้อมกับนำ เรือ ออกค้นหา กว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบ
โดยการค้นหาทีมกู้ภัยต้องประเชิญกับคลื่นลมแรง ในการนำเรือออกไปให้นักประดาน้ำค้นหาในจุดเลยผ่านออกไปนอกแนวโขดหิน ขณะที่ทีมกู้ภัยบางส่วนต้องใส่ชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำ ผูกเชือกต่อกันเพื่อลอยไปงมหาร่างของเด็กที่สูญหายยังจุดในแนวสันเขื่อนหิน
จากการสอบถาม นางสมหมาย อายุ 45 ปี ชาวอำเภอเมืองนครสวรรค์ ได้กล่าวว่าตนเป็นแม่ของน้องเน เด็กที่หายสาบสูญไปกับคลื่นทะเล อายุ 13 ปี ก่อนเกิดเหตุได้พาครอบครัวมานั่งพักผ่อนริมทะเล ระหว่างที่ตนนั่งดูลูกๆ หลานๆ เตะฟุตบอลอยู่บนชายหาดตามปกติ
หลังจากนั้นก็เห็นเด็กๆ ลงไปเล่นน้ำทะเล และเป็นจังหวะเดียวกันที่เห็นลูกชายตัวเองกำลังจมน้ำ ในขณะที่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รีบลงไปช่วย แต่ก็ฝ่าคลื่นลมไปไม่ไหวถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง ตัวของน้องเนถูกคลื่นม้วนหายไปกับตา
พี่สาวของน้องเน เปิดเผยด้วยความโศกเศร้า ว่า พ่อแม่และน้องเพิ่งมาส่งตนที่ระยอง เพื่อมาทำงานที่ร้านสะดวกซื้อ ในขณะเกิดเหตุตนยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกมาเที่ยวกับที่บ้านด้วย แต่มารู้ว่าน้องชายจมน้ำก็เมื่อแม่โทรไปบอก จึงรีบออกมาไม่คาดคิดว่าจะต้องสูญเสียน้องชายไปในวันนี้
ส่วนเพื่อนน้องเน กล่าวว่ าขณะเกิดเหตุเล่นเตะฟุตบอลกันอยู่บนฝั่งกันอยู่ 5 คน ก่อนจะลงไปล้างตัวในทะเล ในขณะนั้นน้องเนได้ลงไปลึกเกือบถึงโขดหิน ซึ่งน้ำทะเลไม่ได้ขึ้นสูงขนาดนี้ ความลึกที่เล่นอยู่ในขณะนั้นเพียงระดับ หน้าอก ปรากฏว่าเป็นช่วงเวลาที่มีคลื่นซัดเข้ามาใส่น้องเน ทำให้ร่างจมไปกับคลื่นในทันที ตนกับเพื่อนจะเข้าไปช่วยแต่ไปไม่ถึง
นายไพรัช รัตนพรวารีสกุล หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยสว่างพรกุศล ระยอง ได้เปิดเผยว่าหลังรับแจ้งได้สั่งการให้ทีมกู้ภัยลงพื้นที่ในทันที การค้นหาต้องพบกับอุปสรรคด้วยคลื่นลมแรง ทำให้นักประดาน้ำต้องแบ่งทีมค้นหาเป็น
2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกนั่งเรือออกไปนอกแนวสันเขื่อนหิน กลุ่มที่2นักดำน้ำใช้เชือกผูกติดกันต่อแถวลงไปค้นหาในน้ำด้านในแนวสันเขื่อนหิน ซึ่งทั้ง2 กลุ่มก็พบเจออุปสรรคคลื่นลมแรงเช่นกัน
ต่อมาเวลา 14.00 น. ทีมข่าวได้สอบถามกับทีมดำน้ำได้เปิดเผยว่า พบเห็นร่างของน้องเนลอยอยู่ใต้น้ำสวมชุดเสื้อสีฟ้าและกางเกงสีฟ้า ลอยม้วนตามคลื่นและกระแสน้าอยู่แอ่งกระทะก้นทะเลนอกเขื่อนหิน แต่ในขณะนั้นนักประดาน้ำจะเข้าไปคว้าร่าง แต่ก็ไปไม่ถึงเพราะกระแสน้ำแรงมาก เมื่อทีมช่วยเหลือจะเข้าไปช่วยอีกทีม ร่างของน้องเนที่อยู่ใต้น้าก็หายไปอีก จึงต้องทำการค้นหาอีกครั้ง
สำหรับการค้นหาใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงยังไม่พบร่างน้องเนที่สูญหาย แม่และญาติๆ ต้องจุดธูปบอกกล่าวอยู่หลายครั้ง ขอให้พบร่างของน้องเนด้วยบรรยากาศที่โศกเศร้า
ต่อมาเวลา 14.30 น. หัวหน้าทีมค้นหาสว่สงพรกุศล ระยอง ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า จากการสอบถามไปที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งว่าคลื่นลมในเวลานี้เบาที่สุดแล้ว จึงต้องทำการค้นหาต่อไป อีกทั้งเมื่อเห็นสีหน้าของพ่อแม่และญาติของน้องเน ที่รอความหวังการพบเจอร่าง ทำให้ทีมกู้ภัยไม่อาจจะยกเลิกการค้นหาได้เพราะเข้าใจในการสูญเสียที่เกิดขึ้น
สำหรับขายหาดแห่งนี้มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ทางเทศบาลนครระยองได้แจ้งเตือนโดยการติดธงแดงห้ามลงเล่นน้ำไว้ในแนวเขตอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเป็นคนในพื้นที่จะทราบดีว่า กระแสน้ำที่พบเห็นจะมีอันตรายโดยเฉพาะนอกแนวเขื่อนหิน ที่ใต้น้ำจะเป็นแอ่งกระทะในบางจุดจึงเป็นเหตุทำให้นักท่องเที่ยวที่มาจากที่อื่นอาจจะไม่ทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม การค้นหายังคงดำเนินการต่อไปโดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานประสานร่วมมือ ทั้งเทศบาลนครระยอง กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง รวมถึงประชาชนไทยมุง นังคงนั่งปักหลักรอการค้นหาอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ในความหวังที่ทุกคนอยากให้พบเจอร่างของน้องเนให้ได้
กระทั่งในเวลา 15.00 น. ทีมค้นหาต้องเปลี่ยนจุดการค้นหาไปยังจุดทัดไป เพราะร่างน้องเนอาจจะถูกคลื่นซัดออกไปนอกชายฝั่งแล้ว รายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป