รายงานพิเศษ : สงครามกลางเมืองที่ไม่เคยหมดสิ้นไปจากโลก (07.00 : 30 เม.ย. 52)

รายงานพิเศษ : สงครามกลางเมืองที่ไม่เคยหมดสิ้นไปจากโลก (07.00 : 30 เม.ย. 52)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้ประกาศ : สถานการณ์สู้รบรุนแรงในศรีลังกาขณะนี้เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ของสงครามกลางเมือง ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนฝ่ายใดจะแพ้หรือชนะไม่สำคัญเท่าความพยายามของหลายฝ่ายในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในดินแดนสงครามแห่งนี้ และการที่จะทำให้สงครามกลางเมืองหมดสิ้นไปจากโลกนี้ได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องน่าคิดไม่แพ้กัน ติดตามจากรายงานพิเศษ ผู้รายงาน : จากการศึกษาประวัติศาสตร์โลกพบว่า สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นจากสาเหตุความขัดแย้งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแย่งชิงอำนาจหรือดินแดน และสงครามกลางเมืองอาจรวมถึงการปฏิวัติ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสังคมหลังสิ้นสุดสงคราม ขณะที่นักประวัติศาสตร์บางคนระบุว่า การจลาจลก็อาจถูกจัดอยู่ในสงครามกลางเมืองด้วย หากมีการสู้รบระหว่างกองทัพอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม สงครามกลางเมืองที่จบสิ้นไปแล้วและถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกก็มีอยู่ไม่น้อย ขณะที่บางสถานการณ์ก็ยุติไปเพียงชั่วคราว ไม่นานก็คุกรุ่นขึ้นมาอีก ส่วนที่ยังสู้รบกันและเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ก็ยากที่จะจบสิ้นลง ดังเช่นสถานการณ์ในศรีลังกา ศรีลังกาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประชาชนต้องตกอยู่ในภาวะสงครามอย่างไม่มีวันจบสิ้น การสู้รบระหว่างกองกำลังรัฐบาลกับกลุ่มพยัคทมิฬอีแลมก็นับแต่จะรุนแรงขึ้นทุกขณะ แม้รัฐบาลศรีลังกาจะประกาศยุติการใช้อาวุธหนักโจมตีกลุ่มพยัคทมิฬไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่หลังจากนั้นเพียง 1 วัน สถานีโทรทัศน์ทมิฬ วิชั่น ของกลุ่มทมิฬซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในศรีลังกา ได้แพร่ภาพออกอากาศผ่านดาวเทียมจากประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นเครื่องบินรบ ที่อ้างว่าเป็นของรัฐบาลศรีลังกา ทิ้งระเบิดหลายลูกในเขตมูลลาติวู ซึ่งเป็นเขตปลอดภัยของพลเรือน การแพร่ภาพดังกล่าวเป็นสัญญาณให้เห็นว่าฝ่ายพยัคทมิฬยังคงฮึดสู้ไม่ถอย แม้กองกำลังรัฐบาลจะพยายามใช้ปฏิบัติการขั้นรุนแรงกวาดล้างก็ตาม ขณะที่ชาวทมิฬในหลายประเทศทั่วยุโรป อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส นอร์เวย์ และเดนมาร์ก ได้รวมตัวประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลศรีลังกายุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวทมิฬในศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกไม่ได้เพิกเฉยต่อสถานการณ์รุนแรงในศรีลังกา โดยสหรัฐ สหประชาชาติหรือยูเอ็น. สหภาพยุโรปหรืออียู. ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในศรีลังกา นอกจากนี้ อังกฤษ ฝรั่งเศส และสวีเดน ต่างก็ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศเยือนศรีลังกาเพื่อหวังกระตุ้นให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่รายงานข่าววานนี้ระบุว่า รัฐบาลศรีลังกาไม่อนุญาตให้รัฐมนตรีต่างประเทศสวีเดนเข้าไปยังพื้นที่สู้รบรุนแรงเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนศรีลังกาที่กำลังได้รับกระทบจากการทำสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย ขณะที่ยูเอ็น. กล่าวว่าตัวเลขของพลเรือนไร้ที่อยู่อาศัยในศรีลังกาพุ่งสูงกว่า 100,000 คนแล้ว ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น.รายงานว่า มีประชาชนเสียชีวิตแล้วมากถึง 70,000 คน นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่มขึ้น โดยกลุ่มพยัคทมิฬเริ่มต่อสู้แบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกาตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม สงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในอดีตมีมากมาย แต่ที่สำคัญและถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลก เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา และตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ได้แก่ สงครามกลางเมืองญี่ปุ่น สงครามฮุสไซท์ในโบฮีเมีย สงครามดอกกุหลาบในอังกฤษ สงครามศาสนาในฝรั่งเศส สงครามกลางเมืองอังกฤษ สงครามกลางเมืองอเมริกา สงครามกลางเมืองรัสเซีย สงครามกลางเมืองไอร์แลนด์ สงครามกลางเมืองจีน และสงครามกลางเมืองสเปน ขณะที่ หนทางที่จะขจัดให้สงครามกลางเมืองหมดสิ้นไปจากโลกนี้ ดูจะเป็นเรื่องยาก แต่ความภาคภูมิใจประการหนึ่งของผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์โลกและประชาชนทั่วไป น่าจะอยู่ที่ประเทศของตนไม่ถูกบันทึกไว้ว่าครั้งหนึ่งเคยเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และแน่นอนที่สุดว่าในบันทึกดังกล่าวไม่ชื่อของประเทศไทยรวมอยู่ด้วย พรทิพย์ แสงมหาชัย เรียบเรียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook