นักบำบัดพลังจิตช่วย "ลุงพายัพ" ชายป่วยอัมพฤกษ์ใจบุญ สุดดีใจยกแขนได้แล้ว

(19 มิ.ย.61)เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 1/17 หมู่ 11 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของ นายพายัพ รอดเมือง อายุ 59 ปี ชายพิการผู้ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์จากอุบัติเหตุเมื่อกว่า 21 ปีก่อน และได้ขอบริจาคดวงตาช่วยเหลือสาวสุรินทร์วัย 26 ปี แต่บริจาคไม่ได้เนื่องจากยังมีชีวิตอยู่ นายพายัพจึงบริจาคอวัยวะทั้งหมดและร่างกายให้แก่สภากาชาดไทย

>>แพทย์ชี้แจง ​ลุงพิการสละ "ดวงตา" ให้สาวตาบอดไม่ได้ ผิดหลักมนุษยธรรม

ในวันนี้ได้มีทีมนักบำบัดโรคด้วยพลังจิตฉายา "อาจารย์เอกพลังจิต" หรือ นายกีรติ สมคิด อายุ 48 ปี ผู้มีความชำนาญเฉพาะด้านและเดินสายทำการรักษาอาการผู้ป่วยในลักษณะนี้อยู่ในต่างประเทศ เดินทางมาให้การช่วยเหลือลุงพายัพ เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีบำบัดจับเส้นด้วยพลังจิต ถึงที่บ้านพักพร้อมด้วยทีมงานจำนวน 3 คน

โดย นายกีรติ กล่าวว่า เหมือนเคยได้ทำบุญร่วมกันมา จึงได้มีโอกาสเข้ามาช่วยเหลือทำการบำบัดรักษาอาการของลุงพายัพ โดยที่ตนไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากได้มองเห็นถึงจิตใจอันประเสริฐดีงามของลุงที่ตั้งใจช่วยเหลือคนพิการด้วยกันดัวยใจบริสุทธิ์ ทั้งที่ตัวลุงนั้นก็ยังเป็นผู้ที่พิการเหมือนกับตายทั้งเป็นอยู่แล้วโดยที่ไม่ได้หวังผลสิ่งตอบแทนใดๆ

แม้การบริจาคดวงตาหรืออวัยวะสำคัญให้แก่ น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือ น้องยุ้ย สาววัย 26 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ผู้พิการตาบอดจะไม่สำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ก็ตาม แต่ก็เป็นผลบุญจากความตั้งใจจริงที่บริสุทธิ์ และเชื่อว่าจะสามารถทำการบำบัดรักษาช่วยให้ลุงพายัพนั้นหายป่วยจากโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่อย่างนี้ได้ แต่ต้องอาศัยเวลาในการทำการรักษาต่อไป 

>>ลุงอัมพฤกษ์ จ่อบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์หมอ ขอโทษสาวตาบอด ทำให้หวังเก้อ

ด้านนายพายัพ บอกรู้สึกดีใจอย่างมากจนพูดไม่ออก หลังจากอาการแขนข้างซ้ายที่เคยยกไม่ขึ้นกลับสามารถมีแรงยกขึ้นสูงจนลูบศีรษะเส้นผมของตนเองได้อย่างทันตาเห็น จากที่ไม่เคยมีความหวังว่าอาการเจ็บป่วยของตนจะหายจากโรคได้ตลอดระยะเวลานานถึงกว่า 21 ปีเต็ม กลับทำให้มีความหวังว่าจะหายจากอาการป่วยได้อีกครั้ง

หลังจากการรักษาในวันนี้ ทราบว่าทางอาจารย์เอกพลังจิต จะเดินทางไปรักษาผู้ป่วยชาวต่างชาติ ยังที่ต่างประเทศ และจะกลับมาทำการรักษาให้แก่ตนอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ค.61 นี้ 

>>เปิดชีวิตลุงยอมสละ "ดวงตา" ให้สาวตาบอด ลำเค็ญแต่ก็สู้ไม่แพ้กัน