ผัวใจโหด! ซ้อมเมียอ่วม-จับแขวนคอ ลูกทนไม่ไหววิ่งบอกญาติให้มาช่วย

ผัวเมียทะเลาะถูกทำร้ายร่างกายอ่วม ลูกสาวทนดูไม่ได้ รีบวิ่งไปบอกญาติให้มาช่วย ผัวคลั่งประกาศ "เมียตายแล้ว" ญาติเจอถูกแขวนคอแต่เชือกหลุด ชักเกร็งเลือดกบปาก

(3 มิ.ย.) เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.มาโนช ปลอดขันเงิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.สวี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุสามีทำร้ายร่างกายภรรยาภายในบ้านหลังหนึ่ง แต่ได้มีญาติเข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสวีไปก่อนแล้ว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจัดกำลังตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เพื่อติดตามตัวสามีแต่ปรากฎว่าไม่พบตัว

ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลสวี แพทย์และพยาบาลกำลังเร่งปฐมพยาบาล น.ส.ปาล์ม อายุ 33 ปี ผู้บาดเจ็บจากการถูกนายสิทธิพงษ์ ผู้เป็นสามี ทำร้ายร่างกายเบื้องต้นพบว่ามีอาการชักเกร็ง ก่อนนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ต่อไป

จากการสอบถามญาติคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า นายสุทธิพงษ์ และ น.ส.ปาล์ม อาศัยอยู่กินกันมานานหลายปีและมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนเล็กเพิ่งจะคลอดออกมาได้ไม่นาน ที่ผ่านมาทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อย โดยเฉพาะฝ่ายสามีที่มักจะหาเรื่องตบตีทำร้ายร่างกายภรรยาเป็นประจำ

แต่ในครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง ก่อนเกิดเหตุ นายสุทธิพงษ์ ได้มีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์สุรา และอาจจะเพิ่งเสพยามาด้วย ก่อนจะลงมือทำร้ายทุบตี น.ส.ปาล์ม ทั้งที่ลูกๆ ก็อยู่ด้วยในบ้านด้วย ต่อมาลูกสาวคนโตทนดูพ่อทำร้ายแม่ไม่ได้ จึงเปิดประตูวิ่งไปตามญาติที่บ้านอยู่ใกล้กันให้ไปช่วยเหลือแม่

ปรากฏว่าทางญาติเองก็ยังไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือในทันที เพราะว่านายสุทธิพงษ์ มีอาวุธปืนติดตัวไว้ด้วย ต่อมาไม่นาน นายสุทธิพงษ์เดินออกมาจากบ้านและตะโกนบอกว่า “ปาล์มตายแล้ว” พอพูดจบก็เดินหนีหายออกจากบ้านไป

ญาติๆ จึงรีบวิ่งกรูกันเข้าไปช่วย น.ส.ปาล์ม ที่กำลังนอนชักเกร็งตัวเปียกน้ำโชกทั้งตัวอยู่หน้าห้องน้ำและพบว่ามีเลือดไหลออกทางปากและจมูกด้วยจึงเร่งช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสวี

ร.ต.อ.มาโนช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายสุทธิพงษ์เบื้องต้นทราบว่าเคยจำคุกในเรือนจำ 7 ปี ตั้งแต่ช่วยมีลูกคนแรกกับ น.ส.ปาล์ม หลังจากพ้นโทษได้กลับมาอยู่กันและได้มีลูกสาวคนที่ 2

โดยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมักจะทำร้ายภรรยาตัวเองเป็นประจำ แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ โดยใช้กำลังทุบตีและที่หนักที่สุดคือพยายามจับภรรยาตัวเองแขวนคอ แต่ น.ส.ปาล์ม รอดชีวิตมาได้ เพราะเชือกที่ผูกไว้หลุดมาก่อน ทำให้มีอาการชักเกร็ง ส่วนนายสุทธิพงษ์คิดว่าภรรยาตัวเองตายแล้วและต่อมาญาติเข้ามาช่วยไว้ทัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่อไปคือต้องออกหมายจับนายสุทธิพงษ์ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน เมื่อได้ตัวมาแล้วก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพร้อมกับตรวจหาสารเสพติดว่านายสุทธิพงษ์ นอกจากติดสุราแล้วยังเสพยาชนิดอื่นหรือไม่ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วไม่เชื่อว่าจะติดสุราเพียงอย่างเดียว