จนมุมเพราะโน้ตบุ๊ก จับโจรลักทรัพย์ตัวฉกาจ โพสต์ขายของที่ขโมยมา

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 พฤษภาคม 2561 หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นม.พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย รองผบก.ภ.จว.นม. พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สภ.จอหอ และชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

ได้ผู้ต้องหา 2 คน นายสิทธิโชค หรือเล่ อายุ 23 ปี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ,นายนราธิป หรือเม่น อายุ 26 ปี ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง อาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 8 นัด

ทีวี 6 เครื่อง พระเครื่องจำนวนมาก โน๊ตบุ๊ค เครื่องตัดหญ้า เลื่อยยนต์ ตู้เชื่อม สว่านไฟฟ้า วงเดือนไฟฟ้า กล้องถ่ายรูป เครื่องเล่นเกม สร้อยโลหะสีทอง รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน และอุปกรณ์ก่อเหตุหลายรายการที่ ใช้ในการตระเวนออกลักทรัพย์

ทั้งนี้สืบเนื่องจากในเขตพื้นที่ สภ.จอหอ มีการลักทรัพย์เกิดขึ้นหลายครั้ง และล่าสุดคนร้ายได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านในเขต ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งคนร้ายได้เอาโน๊ตบุ๊คและพระเครื่องไป

โดยผู้เสียหายได้แจ้งตำรวจว่ามีคนเข้าใช้เฟสบุ๊คจากเครื่องที่หายไป ซึ่งตนเองได้เชื่อมโยงข้อมูลไว้กับโทรศัพท์มือถือ ทราบว่าผู้ที่เล่นเฟสบุ๊คชื่อ นายนราธิป หรือเม่น ปุ๋ยกระโทก

และมีข้อความการสนทนากับ เล่ แล้วไง ทราบชื่อภายคือนายสิทธิโชค หรือเล่ ทิมดอน โดยมีข้อความรูปภาพจากนายเล่ ส่งให้นราธิป เป็นภาพพระเครื่อง ซึ่งผู้เสียหายจำได้ว่าเป็นของตนเองที่หายไป จึงวางแผนเข้าจับกุม

ชุดสืบสวนพบว่า นายนราธิป ได้โพสต์ ขายเครื่องเล่นเกมส์ในเฟสบุ๊ค จึงได้ทำการติดต่อขอซื้อ ต่อมาผู้ต้องหาได้นัดส่งเครื่องเล่นเกมส์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และขยายผลได้โน๊ตบุ๊คเครื่องที่ใช้ติดต่อสื่อสาร จึงสอบถามทราบว่า ได้ซื้อเครื่องเล่นเกมส์ มาจากนายสิทธิโชค จึงได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึด 

จากการสอบถามนายนราธิป แจ้งว่านายสิทธิโชค มักจะนำพระเครื่องและโน๊ตบุ๊คมาขายให้ตนในราคาถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายนราธิป โทรติดต่อขอซื้อพระเครื่องจากนายสิทธิโชค หรือเล่

โดยนัดกันที่สถานีดับเพลิงจอหอ ริมถนนสุรนารายณ์ เมื่อนายเล่ มาถึงจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที จากการค้นตัวพบอาวุธปืนสั้น 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนและพระเครื่องจำนวนหลายองค์อยู่ในกระเป๋าสะพายหลัง และยอมรับว่าของทั้งหมดเป็นตนเองลักทรัพย์มา และขยายผลไปยึดของกลางที่บ้านได้หลายรายการ 

โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในหลายท้องที่ได้แก่ เขต อ.เมือง อ.โชคชัย อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว อ.ครบุรี และอ.เฉลิมพระเกียรติ  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และรับของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป