''บิ๊กอ๊อด''ตามโผนั่งประมุข อลป.3 สมัยติดต่อกัน
ผลปรากฏว่า ที่ประชุมได้เสนอชื่อของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, พล.อ.อ.ชนินทร์ จันทรุเบกษา, พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์, พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์, พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ, นายวรวีร์ มะกูดี, นายวิจิตร สิทธินาวิน, นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์, นางบุษบา ยอดบางเตย, นายสาโรช คุณี พงศ์, นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ, ศ.เจริญ วรรธนะสิน, นายสมบัติ คุรุพันธ์, นายธนา ไชยประสิทธิ์, พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์, นายปองพล อดิเรกสาร, นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, ดร.สีหศักดิ์ อารีราชการัณย์, นายสงวน โฆษะ วินทะ, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ, พ.ต.ท.โกวิทย์ จิรชนานนท์, นายพงศ์โพยม วาศภูติ และ รศ.ดร.พลสิทธิ์ หนูชูชัย เป็นกรรมการบริหารฯ ชุด่ ครบทั้ง 23 คน ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการโหวตออกเสียงแต่อย่างใด
ขณะที่ การเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ประชุมก็ได้เสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมครบตามจำนวน 10 คน โดยไม่ต้องมีการโหวตเช่นกัน ประกอบด้วย นายศักดิ์ชัย วงศ์มาลาสิทธิ์, พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง, นายเรวัตร ฉ่ำเฉลิม, พล.อ.วิชิต ยาทิพย์, รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต, นายธรรมนูญ หวั่งหลี, นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์, พล.อ.บัญชา มรินทร์พงษ์, นายปิติ ภิรมย์ภักดี และ นายฐาปนะ สิริวัฒนภักดี ส่วนการรับรองงบดุล รายรับ-รายจ่าย สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2551 ปรากฏว่า คณะกรรมการโอ ลิมปิคฯ มีรายรับ 38,282,974.00 บาท และมีรายจ่าย 30,278,423.62 บาท สรุป มีรายรับ มากกว่า รายจ่าย 8,004,550.38 บาท ส่วนสินทรัพย์รวมมีทั้งสิ้น 137,068,655.76 บาท
จากนั้น คณะกรรมการบริหารฯ ชุดใหม่ ได้มีการประชุมกันต่อเพื่อเลือกตำแหน่งประธานโอลิมปิคฯ, รองประธาน, เลขาธิการ และเหรัญญิก เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของไอโอซี ปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธานโอลิมปิคฯ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ส่วนเลขาธิการฯ ก็เป็นไปตามคาด ได้แก่ บิ๊กจา พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ที่ควบตำแหน่งรองประธานฯ อีกด้วย ขณะที่ เหรัญญิก ได้แก่ บิ๊กต้อม นายธนา ไชยประสิทธิ์ ส่วน รองประธานฯ อีก 5 คน จะมีการแต่งตั้งในการประชุมใหญ่ครั้งต่อไป
ภายหลังได้รับการเลือกตั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้แทนสมาคมกีฬาทุกท่านที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ประธานโอลิมปิคฯ อีกครั้ง ซึ่งเป็นสมัยที่ 3 แล้ว โดยในวาระการทำงานอีก 4 ปี คณะกรรมการลิมปิคฯ จะทำหน้าที่ร่วมกับองค์กรและสมาคมกีฬาในการพัฒนาวงการกีฬาไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ส่วนนโยบายในช่วง 4 ปีจากนี้ ในเบื้องต้นจะมีการปรับปรุงการแบ่งมอบงานของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ออกเป็นกรรมาธิการ คณะต่าง ๆ ให้เหมาะสม, ปรับปรุงแก้ไขธรรมนูญข้อบังคับคณะกรรมการโอลิมปิคฯ พ.ศ. 2546 ให้ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและการปรับปรุงและจัดทำแนวนโยบายเสียใหม่ให้ทันต่อโลกปัจจุบัน
ทางด้าน พล.ต.จารึก กล่าวว่า นอกจากกรรมการบริหารและผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว คณะกรรมการโอลิมปิคฯ ยังได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาเป็นที่ปรึกษา จำนวน 13 คน อีกด้วย ได้แก่ พล.อ.ประยูร มีเดช, พล.อ.อัครเดช ศศิประภา, นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์, นาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์, พล.ต.อ.สนอง วัฒนวราง กูล, นายสุจินดา ยงสุนทร, พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย, นายประชา เหตระกูล, นายทินกร นำบุญจิตต์, นายกนกพันธุ์ จุลเกษม, นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม, นายปรีดา รอดโพธิ์ทอง และ พล.ร.ท.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ.