เปิดตัว รอส.วัย 81 ปี หุ้นส่วนสร้างรีสอร์ทหรูกลางเขาค้อ มูลค่า 100 ล้าน

เปิดตัวรอส.วัย 81 ปี เจ้าของที่ดินหุ้นส่วนสร้างตึกยักษ์รีสอร์ทหรูกลางเขาค้อมูลค่า 100 ล้าน อ้างไม่ได้ขายที่ดินเพียงแต่ร่วมลงทุนได้เงินปีละ 1.2 แสนบาท รู้ทำผิดเงื่อนไขแต่ทุกคนก็ขายเกือบหมด

(5 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณีนายทุนการก่อสร้างตึกยักษ์รีสอร์ตหรู บนที่ดินราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) กลางเขาค้อ และอยู่ในเขตป่าที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี แต่ภายหลังพนักงานสอบสวนสภ.เขาค้อและพนักงานอัยการหล่มสักมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง โดยผู้ต้องหายกประเด็นร่วมลงทุนกับรอส.เจ้าของที่ดินขึ้นต่อสู้ จนทำให้ขาดเจตนาไม่เป็นความผิดตามข้อกล่าวหา

ล่าสุดนายละออ จีนใจตรง รอส.เจ้าของที่ดินดังกล่าวในวัย 81 ปี ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ลูกสาวที่ หมู่ 3 ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยสภาพความเป็นอยู่โดยฐานะเหมือนกับชาวบ้านในเขตชนบททั่วไปที่มีอาชีพทำนา ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของการได้ครอบครองที่ดินรอส.แปลงนี้ว่า หลังจากการสู้รบที่เขาค้อเริ่มยุติเมื่อราวปี 2527 จึงไปบุกเบิกทำไร่ตามคำแนะนำของทหารผ่านทางลูกสาวซึ่งทำงานอยู่เกษตรที่สูง อ.เขาค้อซึ่งเปิดรับสมัครรอส.ครั้งละ 30 ราย แต่เป็นสภาพพื้นที่เป็นป่าทึบจึงทำได้แค่เพียงปลูกกล้วยเท่านั้น

นายละออเล่าอีกว่า ทราบดีถึงเงื่อนไขวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ที่ดิน 9 ข้อและรอส.ต้องยึดหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะการห้ามซื้อขายแต่เมื่อ รอส.แทบทุกคนต่างก็ขายที่ดินเกือบทั้งหมด ส่วนนั้นยืนยันว่าไม่ได้ขายและไม่เคยรับเงินล้านเพียงแต่เป็นการร่วมทุนเท่านั้น โดยได้รับเงินเดือนฯละ 10,000 บาทหรือ 120,000 บาทต่อปี โดยมีการเขียนสัญญาร่วมหุ้นกับนายทุนกทม.ที่สภ.เขาค้อ ซึ่งในหนังสือสัญญานั้น ก็ไม่ได้ระบุว่าทรัพย์สินหรือสิ่งปลูกสร้างจะเป็นของตนแต่อย่างใด

“ก่อนเปลี่ยนมือทำการปลูกมะขามแต่อายุมากไม่มีใครดูแลสานต่อ จึงมาอาศัยอยู่กับลูกโดยคาดหวังหลังสร้างรีสอร์ทเสร็จแล้วลูกหลานจะได้มีงานทำในรีสอร์ท และผมก็มีเงินไว้กินใช้ในบั้นปลายในชีวิต หากรีสอร์ทเปิดบริการไม่แน่ใจว่าจะได้เงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ก็มีทหาร ม.พัน 28 จ.เพชรบูรณ์ มาขอเก็บข้อมูลเรื่องนี้ก็เล่าให้ฟังไปตามนี้” นายละออกล่าว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามขอดูเอกสารสัญญาและข้อตกลง ถึงการร่วมลงทุนระหว่างนายละออกับนายทุนรายนี้ ปรากฏว่านายละออรอส.เจ้าของที่ดินก่อสร้างตึกอาคารยักษ์ 3 หลังกลางเขาค้อได้ตอบปฏิเสธ โดยอ้างว่าหนังสือนี้ไม่ได้อยู่ที่ตนเองแต่อยู่ที่สภ.เขาค้อ