เปิดใจสาวถูกอ้างเชิดเงินล้านเสวยสุข ยืนยันไม่เคยแต่งงานด้วย

เปิดใจสาวถูกอ้างเชิดเงินล้านเสวยสุข ยืนยันไม่เคยแต่งงานด้วย

เปิดใจสาวถูกอ้างเชิดเงินล้านเสวยสุข ยืนยันไม่เคยแต่งงานด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงสาวชาวชุมพรเปิดใจ หลังถูกสังคมตราหน้ากระหน่ำด่า ปมข่าวเชิดเงินคนพิการนับล้านไปเสวยสุขกับสามีใหม่ ยืนยันแค่รู้สึกและสงสารที่เป็นคนพิการ แต่ไม่เคยจดทะเบียหรือแต่งงานด้วย

(11 ธ.ค) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา ทางผู้สื่อข่าวจังหวัดชุมพร ได้มีโอกาสได้เจอ น.ส.ปราถนา หรือ ปุ๊กปิ๊ก อายุ 36 ปี สาวที่ถูก นายพงษ์ศักดิ์ อ้างตนเป็นทหารพรานถูกกับระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ดักทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บพิการทางร่างกาย และมาพบรักอยู่กินกับ น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ถึงขั้นแต่งงานกัน และต่อมาได้ถูก น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ได้หลอกเอาเงินไป 4.5 ล้านบาทไปอยู่กับสามีใหม่ กลายเป็นประเด็นข่าวที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: อดีตทหารใต้โร่แจ้งจับเมียเก่า กุว่าตาย-เชิด 4 ล้านมีสุขกับสามีใหม่

น.ส.ปุ๊กปิ๊ก เปิดเผยว่า ตนเคยรู้จักกับ นายพงษ์ศักดิ์ เมื่อหลายปีที่แล้ว โดยขณะนั้นตนมาขายชาไข่มุกอยู่หน้าสถานีรถไฟ แล้วเห็นชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นอยู่ในสภาพพิการที่ขา เดินไม่ปกติ ด้วยความสงสารเห็นเดินมาที่ร้าน ตนจึงได้ชงน้ำให้กินแก้กระหาย ก่อนจะถามว่ากินข้าวหรือยัง ซึ่ง นายพงษ์ศักดิ์ ก็บอกว่ายังไม่ได้กิน ตนจึงพามาที่ร้านเสริมสวยของพี่สาว ซึ้่งอยู่ห่างจากไปเพียงไม่กี่เมตร และได้จัดหาอาหารให้กิน แต่ไม่คิดว่าการช่วยเหลือมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์จะทำให้เกิดปัญหาแบบนี้

นางสาวปรารถนา ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันตนไม่ค่อยสบาย ทำงานหนักไม่ได้ เพราะคลอดลูกสาว มีอาการเลือดลมตี ทำลายระบบประสาทสั่งการไม่ปกติ มีอาการเชื่องช้า บางครั้งเบลอจำความอะไรไม่ได้ ต้องอยู่ในการดูแลของพี่สาวที่คอยพาไปหาหมอตามที่หมอนัด ถึงความจำจะไม่ค่อยดี แต่ยืนยันไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายพงษ์ศักดิ์แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ตนก็ยังใช้นามสกุลเดิม ไม่เคยจดทะเบียนกับนายพงษ์ศักดิ์ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งเรื่องทั้งหมดดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียให้กับตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก หลังตกเป็นข่าว ตนกลับถูกสังคมประณามเป็นคนไม่ดี หากจะเอาเรื่องแจ้งความก็สงสาร เพราะจะหาว่าจะเอาคนพิการติดคุก แต่ก็อยากให้หน่วยงานด้านสุขภาพ มาดำเนินการจัดการควบคุมตัว นายพงษ์ศักดิ์ ไปรักษาดูแล เพื่อไม่ให้ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook