ฉันมาไกลเพื่อน้อมส่งพ่อสู่สวรรคาลัย ความในใจของคนไทยพลัดถิ่น

ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวของแสงแดดบริเวณรอบท้องสนามหลวงที่เป็นสถานที่จัดงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ 25 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 คราคร่ำไปด้วยประชาชนที่มาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเข้ามาจับจองจองพื้นที่ริมฟุตปาธเป็นที่หลับนอนมีท้องฟ้าเป็นหลังคา

โดยมีจุดประสงค์เดียวกันคือเพื่อขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งหนึ่งในมวลชนเหล่านั้นคือหญิงแกร่งชาวไทยที่พลัดถิ่นฐานบ้านเกิดไปอยู่ต่างแดนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กว่า 21 ปี แต่ด้วยหัวใจคือคนไทยเต็มร้อยจึงขอมาทำหน้าที่ลูกที่ดีส่งพ่อสู่สวรรคาลัยครั้งสุดท้าย

คุณจิตรา บุรี เล่าให้ทีมข่าว Sanook News! ว่าตนเองอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ กว่า 21 ปีแล้วและได้แต่งงานมีครอบครัว โดยเดินทางมาจากสวิตเซอร์แลนด์มาถึงเมืองไทยวันที่ 24 ต.ค. เพื่อที่จะเข้ามากราบพระบรมศพในหลวง ร.9 เพราะนี่ถือเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ใกล้ชิดในหลวงรัชกาลที่ 9

ทั้งชีวิตเคยเห็นพระองค์ท่านอยู่แต่ในโทรทัศน์และพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งหลังจากลงเครื่องก็ตรงมายังท้องสนามหลวงเลย แต่เมื่อมาถึงกลับเข้าไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าจะแต่งตัวอย่างไร จึงไปหาซื้อชุดมาเปลี่ยนและก็ได้เข้าไปกราบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์สมความตั้งใจ

ซึ่งขณะนั้นไม่คิดว่าจะมีวันนี้และดีใจมากที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ทั้งนี้ทุกคนที่เห็นเราต่างไม่คิดว่าเป็นคนไทยคิดว่าเป็นต่างชาติ แต่ในใจเราคิดเสมอว่าเราคือคนไทยโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยในแผ่นดินในหลวง ร.9 รู้สึกภูมิใจมากที่เป็นคนไทยถึงแม้ว่าหน้าตาจะออกไปทางบราซิลก็ตามแต่ในใจเราคือคนไทยแท้ 100%

ได้ยินมาว่าเช่าโรงแรมอยู่สบายทำไมถึงต้องมานอนข้างทางริมฟุตปาธ

พี่มานอนที่ริมฟุตปาธตั้งแต่คืนวันที่ 24 ต.ค. ที่มาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อที่จะอยากจะต่อคิวเข้าไปในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 เวลาเราดูข่าวในหลวง ร.9 ท่านทรงงานเดินทางลำบากมากไปในถิ่นที่ทุรกันดารแต่ท่านก็ไม่ย่อท้อท่านทำเพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน

แล้วเราล่ะแค่มานอนกับปูนทนความร้อนแค่นี้ยังไม่สู้ความลำบากความเหนื่อยของพระองค์ท่านไม่ได้เลย เราอยู่ที่ไหนก็สบายได้ทั้งนั้นขอแค่ใจเรามีความสุขในสิ่งที่ทำก็พอ

เพื่อบ้านชาวสวิตเซอร์แลนด์สงสัยหรือไม่ว่ารูปที่มีทุกบ้านคืออะไร แล้วเคยเล่าให้พวกเค้าฟังหรือไม่

พี่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว ร.9 และพระราชินี ติดไว้ที่บ้านขนาดใหญ่มาก เพื่อนบ้านที่เป็นชาวสวิสก็ถามเป็นประจำว่านี่รูปใครกัน ซึ่งเราก็จะตอบกลับไปว่านี่คือรูปเทวดาของคนไทยคือพระเจ้าอยู่หัวที่ปกครองคนไทย และเค้าจะถามต่อว่าท่านเป็นอย่างไรเหมือนประมุขของประเทศอื่นไหม

พี่ก็จะตอบอย่างภาคภูมิใจว่าพระมหากษัตริย์ของประเทศไทยท่านเปรียบเสมือนเทวดาเดินดินท่านทรงช่วยเหลือประชาชนทุกคนเดินทางไปยังถิ่นทุรกันดารเหนื่อยยากลำบากแสนเข็ญเพื่อเข้าไปปัดเป่าทุกข์ให้กับพสกนิกรชาวไทยทุกคน พระองค์ท่านไม่เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ท่านทรงงานหนักมากเพราะท่านรักและไม่เคยทอดทิ้งประชาชนเลย

ลูกๆของคุณที่เกิดและเติบโตอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำไมถึงรู้จักในหลวง ร.9 และรักพระองค์ท่าน

พี่จะชอบเล่าเรื่องราวของในหลวง ร.9 ให้ลูกพี่ฟังเสมอว่าแค่หลอดยาสีพระทนต์ พระองค์ท่านก็จะใช้อย่างคุ้มค่าบีบใช้จนหมดหลอดก่อนที่จะทิ้งไป พระองค์ท่านทรงทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ขนาดฉลองพระองค์ที่ขาดท่านยังสั่งให้บริวารนำไปเย็บแก้ไขเพื่อที่จะนำกลับมาใช้ใหม่เลย นี่คือพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยที่พี่พร่ำสอนและเล่าเรื่องราวของพระองค์ท่านให้ลูกของพี่ฟังเสมอ

ซึ่งครั้งแรกที่พี่เล่าให้เพื่อนบ้านและลูกๆ ฟังถึงเรื่องราวของพระองค์ท่านพวกเค้าต่างก็ไม่เข้าใจและเกิดคำถามที่เกิดขึ้นในใจเสมอว่าเป็นเรื่องราวจริงเหรอว่าประมุขที่มีชีวิตที่สุขสบายมีเงินทองมากมาย แต่กลับใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและทำงานหนักทรงลำบากเพื่อประชาชนเพราะที่สวิตเซอร์แลนด์ไม่มีพระมหากษัตริย์

พี่จึงเปิดภาพพระราชกรณียกิจให้พวกเค้าได้ดูเป็นภาพที่พระองค์ทรงพระราชดำเนินไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อช่วยเหลือประชาชนพลิกผืนป่าที่แห้งแล้งให้กลับมามีน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ เช่น ฝนเทียม ซึ่งหลังจากที่พวกเค้าได้ดูก็ต่างชื่นชมและยอมรับในสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชน

อยู่ไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ ขอยอมลำบากนอนกลางถนนเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิง

วันที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตตอนนั้นพี่ไปเที่ยวบนภูเขาไม่ได้รู้ข่าวเลย แต่เป็นลูกของพี่เองที่ส่งข่าวไปบอกว่าพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงเสด็จสวรรคตแล้ว พี่จึงรีบลงจากเข้าน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มมาตลอดทางเลย รู้สึกเสียใจที่สุดเศร้าแบบบอกไม่ถูกและอยากจะกลับเมืองไทยเพื่อไปกราบพระบรมศพในหลวง ร.9 มากแต่ก็ทำไม่ได้เพราะติดงานต้องทำงานอยู่ลาไม่ได้

และวันนี้คือโอกาสสุดท้ายในชีวิตพี่ที่จะเข้ามากราบพระองค์ท่านได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่านเพื่อส่งพระองค์ท่านเสด็จสูสวรรคาลัยและพี่จะนำพระบรมราโชวาทของพระองค์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป

ถึงแม้พี่อาจจะไม่มีเชื้อชาติไทย 100% แต่ในใจพี่เชื่อว่าคือคนไทย 100% ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกพี่มีภาคภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้เกิดมาในดินแดนของพระมหากษัตริย์ในหลวง ร.9 ที่มีคนรักมากที่สุดในโลก หากเกิดชาติหน้าฉันใดขอให้ได้มีโอกาสเกิดในแผ่นดินนี้และขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป