ฝ่ายค้านยื่นถอดถอน5รมต.ต่อประธานวุฒิแล้ว
โดยนายพีรพันธุ์กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 เพื่อขอให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ถอดถอน รัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง เนื่องจากรัฐมนตรีที่มีรายนามข้างต้นเป็นผู้กำกับควบคุม ดูแล บริหารราชการในกระทรวง ทบวง กรม ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 เป็นผู้ยึดมั่นในมาตรฐานด้านจริยธรรมอย่างยิ่งยวด ต้องปฏิบัติหน้าที่และประพฤติตนให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย แต่บุคคลดังกล่าวข้างต้นกลับฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
โดยมีการกระทำที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่น และฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเอกสารที่ยื่น ถอดถอน ได้ระบุถึงพฤติกรรมของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยนายประดิษฐ์ถูกระบุว่ามีพฤติการณ์ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับพวกอีกหลายคน กระทำการที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยเข้าไปมีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ปกปิด ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยการรับเงินบริจาค สนับสนุนพรรคการเมืองที่รับบริจาคจากบริษัทมหาชน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับนายกรณ์ ได้มีพฤติการณ์ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ กับพวกอีกหลายคนมีพฤติกรรมส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในทางราชการ จากกรณีที่นายกรณ์และนายอภิสิทธิ์ ได้ร่วมกันร้องขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ได้แก่ ทรูมูฟ เอไอเอส และดีแทค ซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในการกำกับดูแลของบุคคลทั้งสอง ให้ส่งข้อความที่เป็นคำพูดของนายอภิสิทธิ์ไปยังผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวตอนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการส่งรวมแล้วหลายล้านบาท แต่ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายก็มีความยำเกรงอำนาจรัฐของบุคคลทั้งสอง จำยอมให้บริการฟรี จึงถือว่าได้รับประโยชน์จากการให้บริการอันเป็นการต้องห้ามตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประกาศของป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ถือว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีข้อเท็จจริงว่าการให้ผู้ได้รับข้อความส่งข้อความกลับ จะทำให้ผู้ให้บริการมีรายได้ครั้งละ 3 บาท ซึ่งเมื่อรวมเงินได้จากการสั้งนั้นเป็นเงินหลายล้านบาท ถือเป็นรายได้ที่ผู้ให้บริการต้องเสียภาษีเงินได้ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการนำเงินได้ดังกล่าวไปแจ้งเสียภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งนายกรณ์ ในฐานะรมว.คลัง ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงย่อมทราบข้อเท็จจริงดี แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเอื้อประโยชน์ให้บริษัททั้ง 3 ไม่ต้องเสียภาษี ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้กรมสรรพากรขาดรายได้จากการไม่ได้รับชำระภาษีดังกล่าว
ในส่วนของนายกษิต มีพฤติการณ์ที่ขาดสำนึกความเป็นประชาธิปไตย มีการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งเห็นได้ชัดจากกรณีการที่นายกษิต ได้เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างมหาศาล และเมื่อได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.ต่างประเทศ ยังขาดจิตสำนึก ไร้วุฒิสภาวะ และรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ด้วยการกล่าวต่อหน้าเอกอัคราชทูตประเทศต่าง ๆ ว่า การชุมนุมยึดสนามบินเป็นเรื่องสนุก อาหารดี ดนตรีไพเราะ
ซึ่งการกระทำของนายกษิต เป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการบริหารราชการแผ่นดิน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2538 มาตรา 6 ทวิและมาตรา 11
นอกจากนี้ยังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรวจสอบกรณีที่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวพรมแดนติดต่อกันได้ทำถนนรุกล้ำเข้ามายึดครองใช้พื้นที่ของประเทศไทยเป็นทางขึ้นไปปราสาทเขาพระวิหาร จึงส่อเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175 และมาตรา 119 ในฐานะที่เป็นรมว.ต่างประเทศกลับไม่รักษาไว้ซึ่งดินแดนของประเทศ เป็นการกระทำเพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ภายใต้อธิปไตยของต่างประเทศ
สำหรับนายชวรัตน์และนายบุญจง น่าสังเกตว่าฝ่ายค้านได้ระบุพฤติกรรมการกระทำผิดร่วมกัน คือ 1. นายชวรัตน์มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ในกรณีการแต่งตั้งโอนย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งนายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดฯ มาดำรงตำแหน่งปลัดฯแทน แต่ครม.กลับมิได้มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพีรพล ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าวครม.จึงได้มีมติให้ถอนมติครม.เดิมที่เห็นชอบการแต่งตั้งนายวิชัย เป็นปลัดฯประกอบกับการแต่งตั้งครั้งนี้ปรากฏชัดว่าไม่ได้ยึดหลักกฎหมาย หลักคุณธรรม ความรู้ความสามารถ แต่เป็นการเข้าแทรกแซงของฝ่ายการเมือง
โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาสั่งการร่วมด้วย เนื่องจากมีข้อเท็จจริงว่านายวิชัยเป็นคนสนิทและเป็นคน จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเดียวกับนายสุเทพ นอกจากนี้การแต่งตั้งโอนย้ายนายพีรพล ไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ ส่อว่าขัดต่อพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เป็นการย้ายหรือโอนย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ต่ำกว่าเดิม
2. นายชวรัตน์ยังมีพฤติกรรมส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีที่ได้ไปปฏิบัติราชการที่ จ.อุดรธานี แต่กลับแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบารให้เจ้าหน้าที่ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายชวรัตน์เป็นหัวหน้าพรรค นำใบสมัครสมาชิกพรรคไปให้ประชาชนมาสมัคร เป็นการเบียดบังเวลาราชการ และใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองและพวกพ้อง
3. นายชวรัตน์และนายบุญจง มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 266 มาตรา 281 และ 283 โดยแม้นายชวรัตน์จะมีอำนาจกำหนดนโยบาย เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวงมหาดไทย และนายบุญจงจะได้รับมอบหมายให้สั่งหรือปฏิบัติราชการ ในการกำกับดูแลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แต่รัฐธรรมนูญให้ดูแลเท่าที่จำเป็นและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายบุญจงได้ก้าวก่ายแทรกแซงการบริหารงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยยอมให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งราชการเข้าแทรกแซงการจัดงบประมาณในส่วนของเงินอุดหนุน ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งตามกฎหมายไม่มีอำนาจกระทำได้
นายบุญจงได้ร่วมกับคณะของรมว.มหาดไทย ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นประธาน ได้สั่งชะลอการส่งรายละเอียดโครงการการขออนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียน จำนวน 1,517 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 1,237 ล้านบาท ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนดังกล่าว
นอกจากนี้นายชวรัตน์และนายบุญจงยังได้เข้าแทรกแซงการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีเงินจำนวนกว่า 14,000 ล้านบาท โดยสั่งการให้ส่งโครงการดังกล่าวซึ่งมีกว่า 3 พันโครงการไปขอความเห็นชอบจากนายศักดิ์สยามและนายบุญจงก่อน
ทั้งที่โครงการเหล่านั้นพร้อมจะเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาได้แล้ว จึงส่อว่าการสั่งการดังกล่าวขัดต่อพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ
นอกจากนี้ทั้งนายชวรัตน์และนายบุญจง ยังได้สั่งการให้นำเงินมาตั้งจ่ายที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไว้ก่อน เพื่อเตรียมให้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นคนใหม่ที่ตนเองได้แต่งตั้งขึ้นมาเป็นผู้ดูแล เพื่อจะได้เข้าไปสั่งการจัดสรรเงินได้ด้วย
นายประสพสุข กล่าวว่าวุฒิสภาจะเร่งพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ของเอกสารและคำร้องโดยด่วน และในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 13 มี.ค.นี้ตนจะแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบด้วย คาดว่าจะตรวจสอบไม่เกิน 15 วันตามกฎหมาย จะครบกำหนดในวันที่ 26 มี.ค.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง กมธ.เข็นกฎเหล็กคุมส.ส.หัวงูจ้องงาบขรก.สาว รายงาน-จนตรอก มาร์คปัดเลื่อนวันซักฟอกชี้ไร้เกมการเมือง ประจำวันที่16มี.ค. ศึกน้ำลายชิงเมือง