ตีแผ่อาชีพปล้น! ส่งขายออนไลน์รายได้งามไม่ต้องลงทุน

ตีแผ่อาชีพปล้น! ส่งขายออนไลน์รายได้งามไม่ต้องลงทุน

ตีแผ่อาชีพปล้น! ส่งขายออนไลน์รายได้งามไม่ต้องลงทุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ณ ปัจจุบันอาชีพขายของออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมในหมู่สังคมยุคใหม่เพราะซื้อง่ายขายคล่องเพียงแค่ปลายนิ้วจิ้มก็สามารถได้สินค้านั้นมาเชยชมแล้ว ทำให้เกิดอาชีพพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้น และต่างคนก็ต่างสร้างกลยุทธ์เพื่อดึงดูดและเอาใจลูกค้า ทั้งโปรโมชั่นและราคาที่บางครั้งถูกเหมือนได้ฟรี จนเกิดคำถามว่าของแท้หรือไม่

และด้วยช่องทางขายออนไลน์ที่กำลังบูมนี่เองทำให้เกิดเป็นช่องทางในการปล่อยสินค้าที่ซึ่งบางทีเราก็อาจไม่ทราบเลยว่าที่มาของสินค้าแต่ล่ะอย่างนั้นมีความเป็นมาอย่างไร

อย่างเช่นกรณีที่โลกออนไลน์ได้แชร์คลิปเห็นการณ์สองวัยรุ่นชายหญิงที่ทำทีเข้าไปในร้านขายยาเพื่อซื้อสินค้า แต่แท้จริงแล้วกำลังมีแผนการขโมยของ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างทางเจ้าของร้านรู้ทันจึงถ่วงเวลาเพื่อตามตำรวจมาจับ ซึ่งสองโจรวัยกระเตาะเห็นทีท่าไม่ดีจึงหยิบมีดสปาร์ต้าและสิ่งของคล้ายระเบิดออกมาข่มขู่เจ้าของร้าน ก่อนที่จะเดินหนีไปอย่างใจเย็น

1erfe

หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไปบนโลกออนไลน์ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากและมีการแฉข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมากเพราะสองโจรวัยกระเตาะคือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ตัวยงนั่นเอง โดยทั้งคู่มักจะโพสต์ขายสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า เครื่องสำอาง ฯลฯ

โดยจะเลือกเฉพาะยี่ห้อที่เป็นที่นิยมและราคาแพงเท่านั้น ที่สำคัญราคาถูกมากจนถึงขั้นที่ลูกค้าบางรายไม่กล้าซื้อเพราะกลัวเป็นของปลอม แต่พ่อค้าแม่ค้ายืนยันของแท้แน่นอนเพราะขโมยมากับมือนั่นเอง และหากสืบข้อมูลเชิงลึกขึ้นไปอีกพบว่าสองโจรวัยรุ่นยังมีคดีติดตัวที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความจับข้อหาฉ้อโกงยาวเป็นหางว่าว

จากการโพสต์ขายสินค้าราคาถูกเมื่อได้รับเงินจากลูกค้าแล้วก็เชิดเงินหนีเพราะอาจไม่มีสินค้าส่งให้ตามความต้องการของลูกค้านั่นเอง เพราะสินค้าส่วนใหญ่อาจจะมาจากการตระเวนขโมยตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายต่างๆ ซึ่งคงไม่พอต่อความต้องการของลูกค้า

1dfd

โดยพฤติการณ์หรือกลโกงของมิจฉาชีพสองรายนี้ก็คือตระเวนขโมยสินค้าตามร้านต่างๆ แล้วนำมาลงโพสต์ขายทางเน็ตเป็นช่องทางปล่อยของโดยจะขายในราคาถูกมาก เมื่อเหยื่อโอนเงินมาแล้วก็จะส่งสินค้าให้ในครั้งแรกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

และเมื่อมีครั้งต่อไปก็จะเชิดเงินหนีทันทีหรือบางครั้งลูกค้าอาจจะโดนตั้งแต่ครั้งแรกก็ได้ เรียกได้ว่าไม่ต้องลงทุนอะไรแต่ได้เงินฟรีๆถึงสองต่อนั่นเอง

ทีนี้ลองมาดูอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจ ถ้าโจรทั้งสองคนถูกจับจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ถูกขโมยมา ลูกค้าเหล่านี้จะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงหรือไม่??

ทาง Sanook News! จึงติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้รู้กฎหมายได้ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า “การรับซื้อของโจรมีความผิดฐานรับของโจรตาม ก.ม.อาญามาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

1der

ซึ่งการรับซื้อของโจรนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาหากรู้ว่าเป็นของที่ขโมยมาก็ถือว่าผิดฐานรับของโจร  ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิด โดยศาลจะพิจารณาจากเจตนาของคนซื้อเป็นหลักว่ารู้หรือไม่ว่าเป็นของโจรและต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นให้ได้ว่าไม่มีเจตนาซื้อของโจร

ซึ่งแนวทางการพิจารณาว่ามีเจตนาซื้อของโจรหรือไม่ต้องดูหลายส่วนประกอบ เช่น

ราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก เมื่อรู้แล้วยังซื้อแสดงว่ามีเจตนารับซื้อโดยไม่สุจริต

การใช้งาน เมื่อได้สินค้าแล้วนำไปใช้แบบเปิดเผยหรือปิดบัง หากใช้แบบหลบๆซ่อนๆ แสดงว่ามีเจตนาส่อไม่สุจริต และหากนำไปตัดแปลงแก้ไขแล้วขายต่อแบบนี้ส่อเจตนาชัดเจนรู้ว่าสินค้านั้นได้มาแบบผิดกฎหมาย

เวลาและสถานที่ซื้อขาย เช่น ซื้อขายกันในเวลากลางคืนหรือในที่ที่ลับตาคนแบบนี้ผิดชัดเจน

1ft

ด้านเรื่องที่สองโจรขโมยสินค้าและไปขายในเว็ปให้กับลูกค้าทั่วไป ส่วนตัวมองว่าคนที่ซื้อไปไม่น่าจะมีความผิดฐานรับของโจรเพราะสินค้าประเภทนี้ไม่มีราคาแพงมากขนาดที่ต้องขโมยออกมาขายและเป็นการซื้อเป็นครั้งคราวไป ที่สำคัญเป็นการประกาศขายในที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จึงไม่น่าผิด

แต่ถ้าลูกค้าท่านใดได้มีการสั่งออเดอร์สินค้าไว้ล่วงหน้าเพื่อที่จะนำไปขายต่อ โดยไม่ผ่านการประกาศขายออนไลน์และมีการนัดแนะส่งของกันเอง ทั้งๆที่รู้ว่าสินค้าตัวนั้นเป็นของแท้และราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก พฤติกรรมเช่นนี้อาจเข้าข่ายรับซื้อของโจรก็ได้เพราะมีเจตนาส่อไม่สุจริตนั่นเอง

สุดท้ายนี้อยากฝากเตือนว่าอย่าเห็นแก่ของถูกมากๆ อย่างน้อยควรระมัดวังว่าสินค้าที่ได้มานั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร หากสินค้าไม่ได้ถูกขโมยมาจริงก็ควรขอสำเนาบัตรประชาชนไว้และเซ็นรับทราบก็ดีเพื่อที่จะเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนารับซื้อของโจรจริงๆ”

1erdg

ของถูกไม่ดีของฟรีไม่มีในโลกยังคงใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย เพื่อเป็นการเตือนสติในการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท หากมองแต่ประโยชน์ที่จะได้รับโดยไม่สนใจผลเสียที่จะตามมาแล้วสุดท้ายหายนะอาจจะมาเยือนถึงคิดได้ก็สายเกินไปเพราะโลกนี้ไม่มีคำว่าได้ฟรีหากไม่มีการลงทุน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook