คลินตันเดินทางถึงอินโดนีเซีย ด้านแกนนำมุสลิมในอินโดฯ ปัดร่วมโต๊ะอาหาร

นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงอินโดนีเซียในวันนี้ เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของสหรัฐในสายตาโลกมุสลิม รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ และการพัฒนากับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางคลินตัน เดินทางถึงกรุงจาการ์ตาในวันนี้ เป็นประเทศที่ 2 ในการเยือนเอเชียและการเยือนต่างประเทศในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ท่ามการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวอินโดนีเซีย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กนักเรียน 44 คน จากโรงเรียนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยศึกษาตอนเด็กมาร่วมร้องเพลงพื้นเมือง และโบกธงชาติอินโดนีเซียและสหรัฐต้อนรับที่ท่าอากาศยาน
ระหว่าง ปฏิบัติภารกิจในอินโดนีเซียเป็นเวลา 2 วัน นางคลินตัน จะประกาศแผนกระชับความร่วมมือกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเน้นย้ำว่า ภูมิภาคนี้มีความสำคัญยิ่งขึ้นต่อสหรัฐ ซึ่งมักรู้สึกถูกลดทอนความสำคัญจากรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของอดีต ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช
นอกจากนี้ นางคลินตัน ยังมีกำหนดเข้าพบ นายฮัสซัน วิรายูดา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย และคณะผู้นำอินโดนีเซีย เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนข้อพิพาทนิวเคลียร์กับอิหร่าน และสงครามในอัฟกานิสถาน และจะเยือนสำนักงานเลขาธิการสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน คาดว่า เธอจะส่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า สหรัฐมีความประสงค์จะลงนามในสนธิสัญญาไมตรี และความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอาเซียน รวมทั้งจะให้คำมั่นว่าจะไปร่วมการประชุมประจำปีรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะมีขึ้นในประเทศไทยปีนี้
แกนนำมุสลิมในอินโดนีเซียไม่ยอมทานอาหารร่วมกับ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ
แกนนำมุสลิมในอินโดนีเซีย ไม่ยอมรับคำเชิญร่วมรับประทานอาหารกับนางฮิลลารี คลินตัน ที่มุ่งหวังจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับโลกมุสลิม ระหว่างการเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
นางคลินตันเยือนอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เพราะต้องการจะปรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับมุสลิมตามที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ให้คำมั่นไว้ แต่แล้วความพยายามกลับสูญเปล่า เมื่อ นายดิน สยามซุดดิน แกนนำมุสลิมท้องถิ่น ซึ่งเป็นตัวแทนมุสลิม 30 ล้านคน ในอินโดนีเซียไม่ยอมรับคำเชิญของนางคลินตัน ที่หวังจะให้มารับประทานอาหารร่วมกัน
นายสยามซุดดิน ในฐานะประธานกลุ่ม มูฮัมมาดิยะห์ องค์กรอิสลามใหญ่เป็นอันดับสองของอินโดนีเซียบอกว่า เขายินดีจะไปร่วมการประชุมกับกลุ่มคนต่างศาสนาในออสเตรเลียดีกว่าจะมาเสียเวลารับประทานอาหารหรูหราราคาแพงกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนใหม่ การรับประทานอาหารโดยไม่มีการเจรจาใดใดเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์อย่างมาก