สุวรรณภูมิวุ่น! ผู้โดยสารพูด “มีระเบิดอยู่ในสัมภาระ”

สุวรรณภูมิวุ่น! ผู้โดยสารพูด “มีระเบิดอยู่ในสัมภาระ”

สุวรรณภูมิวุ่น! ผู้โดยสารพูด “มีระเบิดอยู่ในสัมภาระ”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับมีผู้โดยสารพูดถึงระเบิดก่อนเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ขึ้น เบื้องต้นตำรวจจับดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ความผิดบางประการของการเดินอากาศ 2558

วันนี้ (2 พ.ค.60) นายศิโรตม์  ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 14.30 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG 145 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ไปยังท่าอากาศยานสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีกำหนดออกเดินทางเวลา 13.45 น. ขอให้ ทสภ. ประกาศใช้แผนฉุกเฉิน

เนื่องจากมีผู้โดยสารชาวสวีเดนที่อยู่บนเครื่องบินพูดว่ามีระเบิดอยู่ในสัมภาระ เมื่อ ทสภ. ได้รับแจ้งเหตุ จึงได้มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินก่อนที่จะมีการประกาศใช้แผนฉุกเฉิน บทที่ 9 เรื่องการขู่วางระเบิดอากาศยาน (Bomb threat on aircraft) และได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนฉุกเฉินโดยทันที

เบื้องต้นได้นำเครื่องบินลำดังกล่าวเข้าจอดที่หลุมจอด Isolate Parking Stand ทางฝั่งตะวันออกของท่าอากาศยาน และได้ลำเลียงผู้โดยสารพร้อมลูกเรือจำนวน 140 คน ออกจากอากาศยานไปพักรอที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยฝั่งตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระ

รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุอยู่ใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ทสภ. จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนฉุกเฉินในเวลา 17.50 น.

ทั้งนี้ สายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้นำผู้โดยสารไปพักรอที่ Gate A8 เพื่อรอขึ้นเครื่องบินไปท่าอากาศยานสมุย ด้วยเที่ยวบิน PG 145 โดยเครื่องมีกำหนดออกเดินทางจาก ทสภ.ในเวลาประมาณ 18.30 น.

พ.ต.อ.มนเทียร เบ้าทอง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อ 15.00 น. ผู้โดยสารชาวสวีเดนได้พูดก่อนเครื่องบินขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่า "I have Explosive in sight" ทำให้เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีเข้าตรวจสอบ แต่ไม่พบว่ามีระเบิดจริง ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาชาวต่างชาติรายนี้

ตามพ.ร.บ.ความผิดบางประการของการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ระบุไว้ว่า ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารที่เป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และหากการกระทำเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานระหว่างทำการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสนถึง 6 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook