ตร.เค้นสอบโชกุนยังปัดฉ้อโกงอ้างไม่รู้ทัวร์พร้อมคืนเงิน

ตร.เค้นสอบโชกุนยังปัดฉ้อโกงอ้างไม่รู้ทัวร์พร้อมคืนเงิน

ตร.เค้นสอบโชกุนยังปัดฉ้อโกงอ้างไม่รู้ทัวร์พร้อมคืนเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าหน้าที่ ตำรวจคุมตัวซินแสโชกุน พร้อมพวก เค้นสอบ ขณะ เจ้าตัว ปัดฉ้อโกง ยันขายแค่สินค้า แต่ทัวร์ญี่ปุ่นเป็นแรงจูงใจเสริม พร้อมคืนเงินผู้เสียหาย หากมีหลักฐานมายืนยัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน หัวหน้าขบวนการแชร์ลูกโซ่รายใหญ่ที่หลอกลวงเหยื่อซื้อทัวร์ญี่ปุ่น พร้อมด้วยนางสาวทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ นางมณฑญาณ์ นิรันดร และนายก้องศรัณย์ แสงประภา มาจากจังหวัดระนอง ลงจากเฮลิคอปเตอร์ กองบินตำรวจ หลังถูกจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยตัวเอง

โดย นางสาวพสิษฐ์ หรือ ชินแสโชกุน นั้นถูกจับกุมได้ที่บริเวณใกล้เคียงกับสำนักสงฆ์พรรั้ง อำเมือง จังหวัดระนอง ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือนั้น ถูกควบคุมตัวได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และบริเวณด่านพรมแดน จังหวัดระนอง โดยระหว่างที่เดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ นางสาวโชกุน ยังคงปฎิเสธว่าไม่ได้ขายแพ็จเกจทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด โดยตัวเองจำหน่ายเพียงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ 

ส่วนการขายทัวร์ที่มีคนมาซื้อจำนวนมากนี้ มีบุคคลอื่นไปออกโฆษณาโดยตัวเองไม่มีส่วนรู้เห็น และสำหรับทัวร์ญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ที่พาสมาชิกทั้งหมดไปจริง โดยใช้เงินส่วนตัวไปกว่า 30 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาฉ้อโกงตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด 

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ต้องคุยกับทางทหารก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อกับผู้ร่วมขบวนการกลุ่มนี้เพราะทั้งหมดยังไม่มีหมายจับ แต่ใช้อำนาจ คสช.ควบคุมตัวไว้ตามมาตรา 44 ซึ่งต้องพิจารณาว่าพฤติการณ์นั้น เข้าข่ายการกระทำผิดตามข้อกฏหมายใดเพิ่มเติม 

ภายหลังการสอบปากคำ "ซินแสโชกุน" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้แถลงต่อสื่อมวชน ว่า ไม่ได้กระทำการฉ้อโกงกับประชาชน เพียงแต่มีการเปิดให้สมัครสมาชิก หาเครือข่ายขายสินค้า ซึ่งการเดินทางไปท่องเที่ยว เป็นแผนธุรกิจที่พบว่ามีคนสนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พาไปเที่ยวต่างประเทศแล้วจริง และเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ได้พาแม่ทีมของบริษัทไปโอซาก้า 40 กว่าคน หลังกลับมามีการโฆษณาให้เพื่อนๆ ทราบ จึงมีคนสนใจอีกจำนวนมาก จนเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ได้พาไปอีกหนึ่งกรุ๊ป แต่มาถึงรอบนี้มีจำนวนมากขึ้น เพราะเชื่อว่ามีแม่ข่ายบางคนนำไปเสนอขายเป็นแพ็คเกจทัวร์ซึ่งตัวเองไม่ทราบด้วย

ส่วนกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน ยอมรับ ไม่เคยทราบว่าไม่สามารถเช่าเหมาลำได้ จึงต้องจองในสายการบินต่างๆ ให้แล้ว ส่วนที่ไม่แจ้งไฟล์ทการเดินทางให้ผู้เสีย อ้างว่ามีความผิดพลาดในการจัดลำดับรายชื่อส่วนเงินของผู้เสียหาย 500 กว่าราย ที่มาซื้อแพ็คเกจทัวร์ ไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง แต่ถูกปรับเปลี่ยนในรูปแบบผลิตภัณฑ์ หากจะคืนเงินให้ผู้เสียหายต้องตรวจสอบก่อนว่า ผู้เสียหายสมัครที่แม่ทีมคนใด และให้นำหลักฐานมายืนยันจึงจะคืนเงินได้ 

ส่วนที่เดินทางไปที่จังหวัดระนอง เนื่องจากต้องการไปรวบรวมทรัพย์สินนำมาประกันตัว ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี และสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อเป็นความเชื่อส่วนตัว เชื่อว่าเป็นมงคลกับชีวิต

นอกจากนี้ กรณีที่มีคลิปเสียง ระบุว่า จะมีการนำสมาชิกไปเข้าเฝ้าและเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง มาเปิดงานของบริษัทนั้น "ซินแสโชกุน" ระบุว่า ออแกไนซ์เซอร์ที่จัดงานเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีเอกสารยืนยัน แต่ตนเองยังไม่ได้ดูรายละเอียด


"ศรีวราห์" ยัน ดำเนินคดีซินแสโชกุนเต็มที่ -เตรียมฝากขัง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุมตัว นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ยืนยันว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอาญาให้เต็มที่ โดยจะควบคุมผู้ต้องหาไว้สอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม 48 ชั่วโมง ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ส่วนจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ต้องรอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำให้แล้วเสร็จก่อน และดูว่าผู้ต้องหาให้ความร่วมมือหรือไม่ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเรื่องของทางแพ่ง ตำรวจไม่สามารถดำเนินการให้ได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนการแถลงข่าว ตำรวจได้แสดงหมายจับ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ซินแสโชกุนทราบ และได้ให้แพทย์จาก โรงพยาบาลตำรวจ มาตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายขณะควบคุมตัวมาที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายแล้วและระบุว่า ผลการตรวจร่างกายไม่พบบาดแผลภายนอก และไม่พบการถูกทำร้ายร่างกาย


ทนายรอผลสอบ'ซินแสโชกุน'ส่อผิดม.112

นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของ  นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมขอเข้าพบเพื่อพูดคุยกับ นางสาวพสิษฐ์ ในเรื่องคดี โดยภายหลังการพูดคุยเบื้องต้น ทนายความยืนยันว่า เท่าที่ได้พูดคุยมา นางสาวพสิษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้จะเดินทางหลบหนี ส่วนเหตุผลที่เดินทางไปจังหวัดระนอง เพราะหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจ จึงเดินทางไปตั้งหลัก ก่อนจะมีการติดต่อทนายความภายหลังที่ครอบครัวถูกคุมตัว เพื่อจะเดินทางเข้ามอบตัว แต่ติดขัดในเรื่องการเดินทาง ทำให้เดินทางไปไม่ทันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าคุมตัวนางสาวพสิษฐ์ 

นายนิติศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเคยช่วยทำคดีเช็กให้กับ นางสาวพสิษฐ์ ก่อนหน้านี้ 1 ครั้ง และไม่รู้ว่า นางสาวพสิษฐ์ ประกอบธุรกิจดังกล่าว เพิ่งทราบจากเจ้าตัว หลังได้มีการพูดคุยช่วงที่ติดต่อให้ไปพบที่จังหวัดระนอง ที่ขณะนั้นยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ภายหลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับนางสาวพสิษฐ์ ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งต่อจากนี้ ต้องดูในข้อกฎหมาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 

ส่วนในเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะเอาผิด ในความผิดหมิ่นเบื้องสูงกับ นางสาวพสิษฐ์ หรือไม่ ต้องรอดูก่อน แต่ยืนยันว่า ขณะนี้มีเพียงนางสาวพสิษฐ์ เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนครอบครัว ยังไม่มีการออกหมายจับใดๆทั้งสิ้น 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล