พัทลุงปืนดุ บุกตามยิงหนุ่มคู่อริ คาเคาน์เตอร์ร้านเซเว่น

พัทลุงปืนดุ บุกตามยิงหนุ่มคู่อริ คาเคาน์เตอร์ร้านเซเว่น

พัทลุงปืนดุ บุกตามยิงหนุ่มคู่อริ คาเคาน์เตอร์ร้านเซเว่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายวัยรุ่น 2 คนใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต โดยเหตุเกิดภายในร้านเซเว่น ขณะผู้เสียชีวิตวิ่งเข้าเซเว่นแต่คนร้ายตามยิงซ้ำ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วกำลังติดตามตัวดำเนินคดี

เมื่อคืนวานนี้ (12 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมดพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเหตุคนร้ายวัยรุ่น 2 คนใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิต ภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟวเว่น แม่ขรี สาขา 3 หน้าตลาดสด หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.เคียงศักดิ์ วรรณบูลย์ ผกก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงินของร้านสะดวกชื้อ เจ้าหน้าที่พบเพียงคราบเลือดและหมอนรองกระสุนปืนพกสั้นชนิดลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 ชิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ถูกยิงพลเมืองดีได้นำส่งโรงพยาบาลตะโหมด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายวีรศักดิ์ อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองพกสั้นเข้าบริเวณลำคอ 1 นัด

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายวีรศักดิ์ ได้ขี่รถจักรยายนต์ออกจากบ้าน เพื่อมาชื้อของที่ร้านสะดวกชื้อ หลังจากเลือกซื้อสินค้าเสร็จ ก็ออกไปยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์ตัวเอง ก่อนที่จะมีวัยรุ่น 2 คน ทราบชื่อเล่นว่า นายโดม และ นายแบงค์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นคู่อริกันอยู่แล้ว เนื่องจากเคยเกิดกรณีแย่งจีบสาวกัน

เมื่อคนร้ายได้เห็น นายวีรศักดิ์ กำลังยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ จึงได้ขี่รถตรงมาและชักปืนขึ้นมา ทำให้ นายวีรศักดิ์ ตกใจวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ แต่ นายโดม ก็ลงจากรถตามเข้ามาจ่อยิงที่หน้าเคาน์เตอร์ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถหลบหนีไป

พ.ต.อ เคียงศักดิ์ วรรณบูลย์ ผกก.สภ.ตะโหมดพัทลุง กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วกำลังเร่งติดตามผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอย่างเร่งด่วนแล้วเพราะเชื่อว่ายังหลบซ่อนตัวตามบ้านญาติในพื้นที่ อย่างไรก็ตามต้องเร่งตามจับตัวให้เร็วที่สุด เพราะผู้ก่อเหตุเคยก่อคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาก่อน และมีหมายจับในพื้นที่อยู่แล้ว

ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางร้านได้บันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เพื่อนำมาประกอบคดี แต่ทางพนักงานของร้านสะดวกชื้อไม่อนุญาตให้ตำรวจเอาภาพและคลิปนาทีที่คนร้ายก่อเหตุไป โดยอ้างว่าต้องรอผู้จัดการร้านเป็นผู้อนุมัติเท่านั้น พร้อมทั้งให้ทางตำรวจทำหนังสือมาขออนุญาตก่อนที่จะให้นำไปใช้ในการประกอบคดีได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook