นายกฯพอใจครม.ปัดพรบ.คอมจับผิดใคร-มีแผนป้องแฮกเว็บ

นายกฯพอใจครม.ปัดพรบ.คอมจับผิดใคร-มีแผนป้องแฮกเว็บ

นายกฯพอใจครม.ปัดพรบ.คอมจับผิดใคร-มีแผนป้องแฮกเว็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ขอเชื่อมั่นคณะรัฐมนตรีใหม่ อย่าแบ่งแยกทหาร พลเรือน ไม่คิดปรับ 'พล.อ.ประวิตร' ออกจากตำแหน่ง ปัดจ้องจับผิดคนในโซเชียล ขอกลุ่มต้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่าโจมตีเว็บของรัฐ ยันมีแผนป้องกัน

พล.อ.ประยุทธ จัทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. กล่าวถึงเหตุผลการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ว่า เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งทุกตำแหน่งมีความจำเป็นและสำคัญต่อการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิรูปประเทศในระยะ 5 ปีแรก จึงขออย่ากังวลถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ รวมทั้งขอให้เชื่อมั่นในบุคลากร โดยอย่าแบ่งแยกว่าเป็นทหารหรือพลเรือน เพราะทุกตำแหน่ง ต้องบริหารงานตามกรอบที่รัฐบาลวางไว้

ส่วนเหตุผลที่แต่งตั้งให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เพราะความเชื่อใจว่า นายสุวพันธ์ จะสามารถทำงานตามที่รับมอบหมายได้ ซึ่งหากทำงานไม่ได้ก็จะมีการปรับใหม่อีกครั้ง จึงขออย่ามองที่ตัวบุคคล และเกมการเมืองมากเกินไป เพราะจะทำให้ไม่สามารถเดินหน้าทำงานได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีหลายครั้งใน 1 รัฐบาล ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ไม่เคยคิดปรับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะปรับให้ออกจากตำแหน่ง และพลเอกประวิตร ก็ทำงานดีมาโดยตลอด ส่วนกระแสข่าวที่มีรายชื่อพลเอกประวิตร อยู่โผปรับ ครม. นั้น สื่อเป็นผู้เสนอเอง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี รู้สึกพอใจต่อการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพราะเป็นที่เลือกรัฐมนตรีเองเพียงผู้เดียว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาต่อต้าน พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ. ศ. 2559 ว่า อย่าให้ความสำคัญมากเกินไป เพราะเชื่อว่า คนส่วนใหญ่มีความเข้าใจเหตุผลและความจำเป็นถึงการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งมีเพียงคนส่วนน้อยที่ไม่เข้าใจและออกมาต่อต้าน 

พร้อมปฏิเสธว่ารัฐบาลไม่จ้องจับผิดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในโลกโซเซียล เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวนี้ จะมีคณะกรรมการคอยเฝ้าระวังและพิจารณาเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยขอร้องกลุ่มที่ออกมาต่อต้าน และประกาศว่าจะโจมตีเว็บไซต์ของรัฐ อย่ากระทำการดังกล่าว เพราะรัฐบาลมีมาตราการป้องกันและรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะระบบการเงินการคลัง

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงผลการประชุม คสช. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เป็นการพิจารณาเพื่อออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ประมาณ 3-4 ฉบับ ซึ่งทั้งหมดเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนและเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมาในอดีต 

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงข้อสั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มีมติให้เร่งรัดคดีที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรง เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร ว่า ในข้อเท็จจริงได้ให้ติดตามในทุกคดีแต่บางเรื่องเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และเป็นคดีที่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการจับผิดคดีใดเป็นพิเศษ แต่ต้องการให้เร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook