ขนมจีนบอกทั้งน้ำตาไม่คิดว่าจะมีวันนี้...

ขนมจีนบอกทั้งน้ำตาไม่คิดว่าจะมีวันนี้...

ขนมจีนบอกทั้งน้ำตาไม่คิดว่าจะมีวันนี้...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'ขนมจีน- กุลมาส' บอกทั้งน้ำตา ไม่คิดว่าจะมีวันนี้...วันที่พ่อของแผ่นดินไม่อยู่

วันนี้ ดารานักแสดงในสังกัดบริษัท อาร์เอส จำกัด ได้เดินทางมาร่วมงานพิธีถวายความอาลัยเเด่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เวลา 10.09 น. โดยประมาณ และ สาว "ขนมจีน- กุลมาส" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า "ความรู้สึกวันนี้ที่ได้มาร่วมพิธีเป็นคนเซนซิทีฟได้ยินเพลงเกี่ยวกับพระองค์และเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านก็รู้สึกคิดถึง วันเเรกที่ทราบข่าวบอกคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าวันนี้มาถึงจริง ๆ วันเเรกก็รู้สึกงง ๆ พอมาวันนี้ก็รู้สึกได้แล้วว่า พระองค์ท่านไม่อยู่จริง ๆ มันไม่ใช่ความฝัน วันที่มีขบวนเคลื่อนพระบรมศพ เจ้าตัวเองก็ไม่ได้ไปส่งเสด็จ เพระติดภารกิจที่ต่างจังหวัด แต่ก็รู้สึกว่าขนาดไม่ได้อยู่ในตอนนั้นความรู้สึกยังหนักขนาดนี้ แล้วคนที่เขาไม่มีบ้านเขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วพระองค์ท่านเป็นที่พักพิงของเขาที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ตอนนี้ตัวเองยังรู้สึกขนาดนี้แล้วคนเหล่านั่นจะหว้าเหว่ขนาดไหน"

"ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเคยได้ทำอะไรเพื่อพระองค์และพระองค์ทรงได้เห็นจริง ๆ คือแสดงละครเวทีเรื่อง พระมหาชนก เมื่อสองปีก่อน และโชว์นั้นเองก็รู้สึกยิ่งใหญ่และทำเมื่อทูลเกล้าฯ เเด่พระองค์ท่าน แต่วันที่เราเเสดงอยู่ทางสำนักพระราชวังก็ได้เเจ้งมาทางละครเวทีว่าได้อัดเทปเเล้วทูลเกล้าฯ เเด่พระองค์ท่าน และพระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรและให้กำลังใจชื่นชมพวกเรามา เป็นความรู้สึกที่ปีติหามิได้เลย ถึงแม้ว่าจะไม่เคยใกล้ชิดพระองค์ แต่เราได้ยินและเห็นเราเป็นนักแสดงตัวเล็ก ๆ แค่นี้ก็มีความสุขมาก เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง บอกหากอะไรที่ปรับใช้ได้เจ้าตัวก็จะทำบอกตอนนี้ยังเป็นวัยรุ่น ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องทำได้ทุก ๆข้อ

อะไรที่มาใช้กับตัวเราได้ก็ทำ เรื่องที่ตรงกับตัวเราก็ในเรื่องดนตรี เพราะพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในด้านดนตรี ที่ตรงกับเรา ที่เราได้ตั้งใจเป็นอาจารย์สอนเด็ก ยิ่งทำให้มีเเรงผลักดันและมีกำลังใจอย่างที่ท่านตั้งหวังไว้ ว่าทำเพื่อคนอื่นมากขึ้น และเห็นสิ่งที่ตัวเองต้องการน้อยลงให้คนอื่นมากกว่าที่เราให้ในปัจจุบัน พูดถึงการให้ที่ทุกวันนี้มีคนเป็นผู้ให้มากขึ้นบอกเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ยิ่งทำให้เราเข้มเเข็งตามที่พระองค์อยากเห็นที่เราเป็นส่วนตัวเอง หากจะสามารถทำอะไรให้ได้ก็อยากทำอยู่แล้ว โปรเจกต์ที่เคยคิดไว้เลย คือ สอนดนตรีเพื่อบำบัดเด็กพิเศษได้ให้มีทักษะในการเรียนรู้มากขึ้น เมื่อก่อนนี้รู้สึกดนตรีเพื่อความบันเทิง แต่ตอนนี้ยิ่งพอเราได้เห็นสิ่งที่ท่านทำมาตลอด ทำให้ตระหนักได้ว่าเราไม่ใช่แค่ควรที่จะคิด แต่เราควรเริ่มทำ ทำให้เกิดขึ้นจริงเหมือนที่พระองค์ท่านไม่พูดแต่พระองค์ท่านทำ"

"สุดท้ายความในใจตอนนี้รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อได้เกิดมาเป็นประชาชนของพระองค์ รู้สึกว่าโชคดีที่ได้ถูกปลูกฝั่งเรื่องราวดี ๆ และพระองค์ท่านได้ทำให้เราเห็นมาตลอด เชื่อว่าฝักลึกอยู่ในใจทุกคนอยู่แล้ว จะดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์ท่าน"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook