วู้ดดี้ เปิดใจกลางรายการ "อุ้มบุญ" แค่สิ่งที่มโนในหัว

วู้ดดี้ เปิดใจกลางรายการ "อุ้มบุญ" แค่สิ่งที่มโนในหัว

วู้ดดี้ เปิดใจกลางรายการ "อุ้มบุญ" แค่สิ่งที่มโนในหัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"วู้ดดี้" เปิดใจกลางรายการตื่นมาคุย เกี่ยวกับประเด็นการ "อุ้มบุญ" เพื่อจะได้มีบุตรในอนาคต ระบุว่าเป็นแค่สิ่งที่มโนในหัวและความต้องการส่วนตัวเท่านั้น

"วู้ดดี้" เปิดใจกลางรายการตื่นมาคุย เมื่อเช้านี้ (22 ก.ย.) เรื่องอุ้มบุญ หลังจาก สบส. ออกมาชี้เแจงว่า ผู้ชายกับผู้ชาย อุ้มบุญกันไม่ได้ ผิดกฎหมาย คนที่จะอุ้มบุญได้ต้องเป็นชายหญิงที่แต่งงานและจดทะเบียนกัน รวมถึงต้องเป็นสายเลือดเดียวกัน คนที่จะมาอุ้มบุญต้องเป็นคนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 และไม่เกิน 40 แล้วก็ผ่าคลอดไม่เกิน 1 ครั้ง คลอดธรรมชาติไม่เกิน 3 ครั้ง "วู้ดดี้" ได้ตอบตรงๆ ว่า...

"ไม่เคยคิดอยากจะมีลูก ไม่เคยคิดอยากจะมีหลาน เพราะเรามีหลานเยอะมาก มันเริ่มต้นจากมีงานหนึ่ง เขาก็พูดถึงชีวิตรัก ถามเราว่าอยากจะมีลูกไหม เราโกหกไม่ได้ เพราะอาทิตย์ก่อนหน้านั้น เราก็ได้คุยกับเพื่อนๆ เล่นๆ เช่น กาละแมร์ กับกลุ่มเพื่อน ว่า ถ้าวู้ดดี้มีลูกจะเป็นอย่างไง? แล้ว พี่เปิ้ล นาคร ก็บอกว่า วู้ดดี้คุณต้องมีลูกนะ ก็เลยบอกพี่เปิ้ลไปว่า มีทำไม นี่พี่เปิ้ลมีตั้ง 3 คน นี่มันธรรมชาติ พ่อแม่ชายหญิงนี่คือธรรมชาติ พี่เปิ้ลก็บอกว่า โลกอนาคต โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว วู้ดดี้กับแฟนต้องมีลูก คุณคือตัวอย่างของครอบครัวสมัยใหม่"

"ประโยคนั่นมันเลยทำให้เราคิดว่า เฮ้ย! อะไรๆ ก็เป็นไปได้บนโลกใบนี้ แล้วก็แซวกันไปมา นักข่าวอาจจะเขียนกันไปเป็นข่าว มันน่าอ่าน แต่วู้ดดี้ ขอบอกเลยว่า การอยากจะมีลูก การอุ้มบุญเนี่ย มันเป็นสิ่งที่มโนอยู่ในหัว มันเป็นความต้องการ ไม่ได้บอกว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย"

นอกจากนี้ "วู้ดดี้" ยังได้เล่าเรื่องราวที่ตื้นตันใจสุดว่า "น้องสะใภ้ เดินเข้ามาแล้วบอกว่า จะอุ้มบุญให้ ตอนนั้น "วู้ดดี้" น้ำตาไหลเลย มันเป็นความสุข ซึ่งหลังจากนั้นได้ไปออกงาน นักข่าวก็ถามถึงเรื่องอุ้มบุญต่อ "วู้ดดี้" เลยบอกไปว่า "ได้แล้ว อาจจะเป็นญาติเราเอง" เรื่องมีอยู่แค่นั้น ส่วนข่าวที่ออกมานั้น "วู้ดดี้" คิดว่ามันดีมาก เพราะมันทำให้หลายคนมีคำถาม ว่ากฎหมายเรามันให้สิทธิกับคนไทยทั้งประเทศหรือไม่! หรือแค่คนบางกลุ่ม ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ"

"วู้ดดี้" ยังพูดทิ้งท้ายว่า "ขอให้ข่าวนี้มันทำให้คนได้เถียงกันเพื่อประโยชน์ แต่วันนี้ขอยุติการพูดเรื่องนี้กันดีกว่า ถ้าจะคุยเรื่องนี้ขอในทางสร้างสรรค์ดีกว่า วันนี้ที่มาพูดเพราะความอยาก ใจมันอยาก แต่กฎหมายมันมีไม่ได้ ผมพูดจากอารมณ์และความรู้สึก ถ้ากฎหมายไม่ยอมรับก็พอแล้ว ส่วนในเรื่องกฎหมายถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ก็เปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่ว่าใครจะเห็นความสำคัญและเข้าใจในสิ่งนี้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook