โจรชิงทองถูกจับหน้าร้าน หนีไม่ทันเพราะเก๋งโดนล็อกล้อ

โจรชิงทองถูกจับหน้าร้าน หนีไม่ทันเพราะเก๋งโดนล็อกล้อ

โจรชิงทองถูกจับหน้าร้าน หนีไม่ทันเพราะเก๋งโดนล็อกล้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. )เวลาประมาณ 18.00 น. พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.สันติ ชูเชิด รอง ผกก.สส. นำตัวนายวราวุธ หรือ มอส เพ็งจันทร์ดี อายุ 22 ปี พักอยู่คอนโดแห่งหนึ่งในซอยเรวดี 19 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ร้านทอง "กระต่ายคู่" เลขที่ 15/9 -10 ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี มาสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

จากการสอบสวนนายวราวุธ ผู้ต้องหา ทราบว่าที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากตกงานเงินขาดมือประกอบกับต้องหาเงินผ่อนรถเก๋งที่ใช้อยู่ โดยก่อนหน้านี้หลังจากเรียนจบ ปวช. จากโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ สาขาการค้าปลีก ก็ได้ออกมาทำงานเก็บเงินเก็บทองจนสามารถซื้อรถเก๋ง ซูซูกิ รุ่นสวิฟ สีเทา ทะเบียน 5กธ- 3743 กรุงเทพ โดยผ่อนเดือนละ 7,500 บาท ได้เพียงไม่กี่เดือนระยะหลังตกงานเงินขาดมือเลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุแต่ไปไม่รอดถูกจับกุมตัวในที่สุด

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่หน้าร้านทอง "กระต่ายคู่" ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ห้ามจอดรถตลอดเส้นทาง จึงถูก พ.ต.ท.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองนนทบุรี และ ร.ต.ต.พัสพนธ์ กิตติปรีชาเลิศ รอง สว.จร. ซึ่งขับรถยนต์ผ่านมาเห็นเข้าเลยทำการล็อคล้อเพราะจอดในที่ห้ามจอดตามนโยบายกวดขันจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยและการจราจรหน้าตลาดสดแห่งนี้ 

จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินเข้าไปทำทีเป็นขอซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท มูลค่ากว่า 40,000 บาท จาก น.ส.ปลิ้มพร ลิ้มศรีสกุลวงศ์ อายุ 40 ปี ลูกสาวเจ้าของร้าน ก่อนจะอาศัยช่วงที่เจ้าของร้านเผลอรีบวิ่งออกมาขึ้นรถเก๋งและสตาร์ทเครื่องเพื่อหลบหนี แต่ไปไม่รอดถูกพลเมืองดีและทางน้องชายเจ้าของร้านช่วยกันจับกุมตัวได้ในที่สุด เนื่องจากล้อรถยนต์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อคล้อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

น.ส.ปลิ้มพร ลิ้มศรีสกุลวงศ์ เปิดเผยว่าเป็นลูกค้าที่อายุไม่มากเป็นวัยรุ่นอยู่ประมาณ 20 กว่า น่าตาออกคนจีนหน่อยเวลาเข้ามาก็ดูปกติของดูสร้อยเส้นนูนเส้นนี้ แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลน ขณะเกิดเหตุคนร้ายวิ่งออกไปเป็นช่วงที่พี่สาวหันหลังเอาสร้อยอีกเส้นมาเก็บและอีกเส้นหนึ่งยังอยู่ที่เคาท์เตอร์ พอคนร้ายเห็นว่าได้จังหวะก็คว้าสร้อยแล้ววิ่งออกไปเลย ทางตนก็ร้องและมีคนช่วยวิ่งตามออกไป พอดีกับรถของคนร้ายที่จอดไว้เป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจล็อคล้อรถเลยไม่สามารถขับออกไปได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook