ตร.สงสัย "หนุ่มเพื่อนร่วมงาน" ลวงสาวฆ่าปาดคอที่บางขุนเทียน

ตำรวจสงสัยหนุ่มเมียนมาเพื่อนร่วมงาน ลวงสาวฆ่าปาดคอแสมดำ หลังพบซ้อน จยย. กลับบ้าน และหายไปไร้ร่องรอย ส่งสายสืบติดตาม ขณะศพไม่ชัดถูกข่มขืนหรือไม่

ความคืบหน้ากรณี คนร้ายฆ่าเปลือยปาดคอ น.ส.ทุเรียน อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ถูกคนร้ายนำศพมาทิ้งบริเวณริมรั้วในพื้นที่ของเอกชน ภายในซอยสะแกงาม 26 ถนนแสมดำ เขตบางขุนเทียน โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.ทุเรียน เป็นพนักงานของโรงงานผลิตพัดลม เพิ่งทำงานได้ประมาณ 1 เดือน ในวันเกิดเหตุได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นายมิ้น สัญชาติเมียนมา ที่เป็นพนักงานในแผนกเดียวกันออกมาจากบริษัท เวลาประมาณ 20.00 น. โดยขับรถมุ่งหน้าไปซอยสะแกงาม 30 ซึ่งเป็นที่พักของ น.ส.ทุเรียน จนกระทั่งมีคนมาพบเห็นศพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.

จากการตรวจสอบ ผลชันสูตรของแพทย์เบื้องต้นคาดว่า เสียชีวิตแล้ว 6-12 ชั่วโมง ก่อนพบศพ แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีร่องรอยการข่มขืนหรือไม่ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อน เพราะอาจจะเป็นการอำพรางศพ ขณะเดียวกัน นายมิ้น ผู้ต้องสงสัยได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้และไม่ไปทำงาน ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าประเด็นการก่อเหตุเป็นเรื่องของชู้สาวหรือไม่ เพราะเนื่องจากผู้ตาย เคยมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เชิญคนใกล้ชิดมาให้ข้อมูล รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการของบริษัท ที่ น.ส.ทุเรียน ทำงาน มาสอบถาม พร้อมไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางการเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศิริราช เบื้องต้นได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งบิดาของผู้ตาย อยู่ระหว่างเดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานี

ขณะที่ นายแสงเทียน พี่ชายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.แสมดำ เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยเปิดเผยว่า น้องสาวเดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมาทำงานเป็นพนักงานแผนกพลาสติก ที่โรงงงานผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ตรงข้ามซอยสะแกงาม 27 เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และพักอยู่เพียงลำพัง ซึ่งตามปกติแล้วน้องสาวจะไปทำงาน 08.00 น. และเลิกงาน 20.00 น. คดีนี้อยากให้ตำรวจช่วยติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วน นายวันชัย เพื่อนร่วมงาน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ขณะเลิกงานเห็น น.ส.ทุเรียน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีขาว ของ นายมิ้น ชาวเมียนมา พนักงานแผนกเดียวกัน ขี่เข้าไปภายในซอย 30 ที่ผ่านมาพบว่า นายมิ้น และ น.ส.ทุเรียน มีการพูดคุยกันตามปกติ และ นายมิ้น ก็มีภรรยากำลังครรภ์อยู่ เป็นพนักงานอยู่แผนกเดียวกันด้วย ในวันเกิดเหตุ ภรรยาของนายมิ้น ได้กลับไปที่พักเมื่อเวลา 17.00 น.

ขณะเดียวกัน ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมา น.ส.ทุเรียน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร นอกจากนี้ นายมิ้น เคยทำงานที่โรงงานแห่งนี้ก่อนจะออกจากงานไป และกลับมาเป็นพนักงานใหม่อีกครั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว