หนุ่มวัย 45 ป่วยฉีดยานอนหลับเองเกินขนาด ช็อกดับคาห้องน้ำ

หนุ่มวัย 45 ป่วยฉีดยานอนหลับเองเกินขนาด ช็อกดับคาห้องน้ำ

หนุ่มวัย 45 ป่วยฉีดยานอนหลับเองเกินขนาด ช็อกดับคาห้องน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มวัย 45 ปี ป่วยไวรัสตับอักเสบบี ฉีดยานอนหลับเข้าเส้นเลือดเกินขนาด ช็อกดับคาห้องน้ำ เมียเผยเคยเกิดเหตุแต่คราวก่อนช่วยทัน

(16 พ.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. ร.ต.อ.ชัยยง อ้วนมะโฮง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุชายฉีดยาเกินขนาดเข้าเส้นเลือดเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 70/9 หมู่ที่ 9 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ติดกับอพาาทเมนต์สมสิริ ตรวจสอบภายในบ้านพบศพ นายขุนพล ฉ่ำอุรา อายุ 45 ปี อาชีพขายโทรศัพท์มือถือ นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำชั้น 1 สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีฟ้า ที่แขนทั้งสองข้างมีรอยคล้ายเข็มฉีดยาหลายจุด ข้างศพพบถุงพลาสติก 1 ใบ ภายในถุงมีเข็มฉีดยา 1 หลอดมีเลือดค้างอยู่ในหลอดปริมาณ 2 ซีซี นอกจากนี้ยังพบแผงยา 1 แผง ระบุชื่ออัลปราโซแลม ขนาด1.0 mg. แพทย์ระบุเป็นยานอนหลับ

น.ส.จรุณรัตน์ อายุ 39 ปี ภรรยา ผู้ตายเล่าว่า ตนและสามีนอนหลับไปตั้งแต่ช่วงเย็น ตนตื่นมาประมาณ 20.45 น.ไม่พบสามีของตนนอนอยู่ด้วย ตอนนั้นคิดว่าสามีออกไปข้างนอกหรือเข้าห้องน้ำอยู่ ผ่านไปสักพัก ตนเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีจึงลองเปิดประตูห้องน้ำชั้นล่างเข้าไปดู ปรากฏว่าพบสามีนอนฟุบอยู่ข้างถังน้ำ ข้างตัวมีถุงใส่ยาและเข็มฉีดยาอยู่ด้วย ตอนนั้นตนตกใจมากรีบเขย่าตัวสามีให้ตื่นแต่สามีแน่นิ่งไม่ตอบโต้แต่อย่างใด จึงรีบไปบอกคนในบ้านให้มาช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็เร่งปั๊มหัวใจแต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้

น.ส.จรุณรัตน์ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าอีกว่า สามีของตนป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ปกติสามีจะใช้เข็มฉีดยาเพื่อฉีดยานอนหลับเข้าทางเส้นเลือดเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในห้องน้ำมาแล้วครั้งนึงแต่ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ตนจึงบอกสามีไม่ให้ล็อคห้องน้ำ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ช่วยทัน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำสองอีก

เบื้องต้นแพทย์ระบุผู้เสียชีวิตเกิดจากอาการช็อกอย่างรุนแรงสาเหตุเพราะอาจจะใช้ยาเกินขนาด อย่างไรก็ตามต้องนำศพผู้ตายส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook