อะเมซิ่งมาก กุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด ทำรายได้นับแสน

ชาวบ้านจังหวัดเพชรบูรณ์หันมาเลี้ยงกุ้งล๊อบสเตอร์น้ำจืดสร้างรายได้เดือนนับแสน

(26 ก.พ.) นายสุรศักดิ์ แทนวันดี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 12 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้หันมาเลี้ยงกุ้งล๊อบสเตอร์น้ำจืด สร้างรายได้งาม โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ได้ทำการปลูกมะขามหวานขาย แต่ราคาของมะขามหวานตกต่ำประกอบกับต้นทุนที่สูงทำให้เกิดผลขาดทุนติดต่อกัน จึงได้หันไปลองเลี้ยงกุ้งล๊อบสเตอร์น้ำจืด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสไปศึกษาวิธีการเลี้ยงกุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด และนำพันธุ์กุ้ง มาจากโครงการหลวง ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อราว ปี 2550 และมาเริ่มเลี้ยงในปี 2550 จนถึงปัจจุบันมีรายได้จากการจำหน่าย ลูกกุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด และจำหน่ายพ่อพันธุ์ - แม่พันธุ์ เดือนละกว่า 1 แสนบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ต่างจังหวัด และร้านจำหน่ายสัตว์น้ำ

จากการสอบถามนายสุรศักดิ์ เล่าว่า กุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทนทาน สามารถเลี้ยงได้ทั้งบ่อปูน และในบ่อดิน ขอเพียงให้น้ำที่เลี้ยงสะอาด หรืออยู่บนบก ได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง มีอัตราการเติบโตเร็ว ถ้าเลี้ยงภายในบ่อดิน ในระยะเวลา 8 เดือน จะให้น้ำหนักตัวอยู่ ที่ 250 กรัม หรือตกอยู่ที่ 4 ตัว/กิโลกรัม โดยกุ้งเพศผู้ สังเกตที่ก้ามจะมีสีแดงเข้มสวยงาม ส่วนเพศเมีย ตัวจะเล็กกว่า มีสีเชียว หรือสีฟ้าที่ก้าม กุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด

เมื่อเลี้ยงได้ 2 เดือนก็สามารถแยกเพศได้แล้วว่าเป็นเพศผู้ หรือเพศเมีย โดยดูจากอวัยวะเพศที่ใต้ขา และเมื่อโตได้เพียง 4 เดือน ก็สามารถนำมาเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ได้แล้ว ทุกวันนี้ที่เลี้ยงกุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด ยังไม่เคยเจอปัญหาของโรคระบาดเลย จะมีก็เพียงจำนวนการผลิตลูกกุ้ง และพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดเท่านั้น ราคาจำหน่ายก็ขึ้นอยู่กับขนาดของกุ้ง เริ่มจากคู่ละ 40 บาท ไปจนถึงราคาคู่ละ 1,200 บาท การเพาะลูกกุ้ง หลังจากกุ้งล๊อปสเตอร์น้ำจืด ตั้งท้องได้ประมาณ 45-60 วัน ก็จะออกเป็นตัว อนุบาลประมาณ 7-10 วัน ก็สามารถจะขายได้แล้ว แต่ในช่วงที่กุ้งตั้งท้อง ห้ามทำให้แม่พันธุ์ตกใจ เพราะจะทำให้แม่พันธุ์เขี่ยไข่จากท้องทิ้งทั้งหมด และไข่ก็จะเสียหายก่อนการได้ฟักตัว

ส่วนใครที่สนใจจะศึกษาวิธีการเลี้ยง ก็สามารถโทรมาสอบถามได้ที่บีบอยฟาร์ม หมายเลขโทรศัพท์ 091-0264626 ตนเองยินดีที่จะให้ความรู้ โดยไม่ปิดบัง ซึ่งในอนาคต เตรียมขอเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับประชาชนที่สนใจอีกด้วย