วิปรัฐบาลจี้ส.ส.รัฐบาลทุกคนห้ามโดร่มประชุมสภาทั้งพุธ-พฤหัส

(2ก.พ.)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ในฐานะวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า วิปรัฐบาลกำชับกันว่าต้องไปกำชับส.ส.ในพรรคทุกคนต้องอยู่ในที่ประชุมกันให้ครบทั้งวันพุธและพฤหัส ไม่ว่าจะเย็นแค่ไหนก็ต้องครบ เพื่อรัฐบาลจะได้ผลักดันกฎหมายให้ได้หลายฉบับเพื่อสร้างผลงานด้านนิติบัญญัติออกมาให้มากที่สุด เราต้องทำหน้าที่ให้เข้มแข็งทั้งส.ส.และรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามเรามีการประเมินว่าฝ่ายค้านเขาต้องทำหน้าที่เขาอย่างเต็มที่ซึ่งรัฐบาลต้องไม่ประมาท

ขณะนี้เราไม่กลัวเรื่องนับองค์ประชุมแล้ว ถ้ามีปัญหาปุ๊บสามารถเช็คองค์ประชุมได้ทันทีระบบ 5 ต่อ 1 ทำงานได้ทันที แต่ก็อาจมีปัญหาว่าหากเสียงไม่ครบขึ้นมาจริงๆเราจะทำอย่างไร เพราะเราอยากผ่านกฎหมาย อยากให้งานจบไปตามที่วางเป้าหมายไว้ อย่างเช่นอาทิตย์นี้เราต้องการผ่านกฎหมายผู้สูงอายุ กฎหมายป.ป.ช. และป.ป.ง. เพราะเป็นเครื่องมือในการทำงานเดินหน้าต่อไป ถ้าไม่ผ่านคงเสียโอกาส ซึ่งประธานสภาฯก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เราไม่อยากให้เกิดเหตุใดๆ อยากผ่านกฎหมายให้ได้ตามเป้า สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลก็ใช้ระบบ 5 ต่อ 1 เหมือนกัน ซึ่งทำให้มีความเชื่อมั่นกันมากขึ้น มันพลาดครั้งนั้นครั้งเดียว ประธานวิปค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้มาก ร่วมกับรัฐมนตรีสาทิตย์ที่คอยวางแผนการทำงานกันอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สมาชิกไปไหนกันไมได้ พวกจังหวัดไกลๆ อย่างที่มาจากภาคใต้ไม่มีปัญหา เพราะมาแล้วก็อยู่รอประชุมกันตลอดสัปดาห์ไม่ไปไหน แต่พวกจังหวัดใกล้ๆ อย่างนนทบุรี สมุทรปราการ ลพบุรี นี่น่าห่วง เพราะถ้าเขามีงานตอนเย็นเขาก็กลับพื้นที่กัน ต้องแก้ปัญหาจุดนี้กันด้วย ตอนนี้เรามีสโลแกนกันแล้วว่า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง ลงพื้นที่พุธ พฤหัส เท่ากันหนีสภา

นายนริศ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ว่า ควรให้เวลารัฐบาลทำงานสักระยะหนึ่งก่อน เมื่อเขาเป็นรัฐบาลมา 8 ปี เราเพิ่งเป็นรัฐบาลเดือนกว่าๆ ลองให้เราแก้ไขปัญหาดูก่อนว่าจะแก้ได้หรือไม่ ตนคิดว่าเร็วไปสำหรับข้อเสนอนี้ อย่างน้อยให้ผ่านพ.ร.บ.งบประมาณเพื่อเป็นผลงาน ให้รัฐบาลมีผลงานออกมาเพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบการทำงาน เพราะตอนนี้เปรียบเทียบไม่ได้เพราะเพิ่งเริ่มต้น อย่างไรก็ตามวิปรัฐบาลยังไม่ได้มีการหารือถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลใช้มาตรการ 9 ข้อของนายกฯจัดการได้ในกรณีของรัฐมนตรีต่างๆ และสามมารถนำมาใช้ได้เกือบทุกเรื่องแม้แต่เรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย เพราะนายกฯคงไม่ยอมให้เกิดปัญหาที่ทำให้เกิดความเสียหายให้กับรัฐบาล

นายนริศ กล่าวถึงกรณี 3 รัฐมนตรีลงมติรับร่างงบฯจนอาจขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่า เรื่องนี้จะป็นเรื่องของวิปฯด้วยหรือไม่ เพราะวิปกำชับเฉพาะส.ส. แต่ไม่ได้กำชับรัฐมนตรีว่าจะต้องโหวตรับหรือไม่ เรื่องนี้วิปไม่ได้พูดถึงว่ารัฐมนตรีควรโหวตหรือไม่ควรโหวต เมื่อถามว่า ถือเป็นความประมาทของวิปด้วยหรือไม่ นายนริศกล่าวว่า วิปคงลืมคิดไป เราไม่ได้คิดกันเลยว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นเหตุการณ์ เพราะในอดีตรัฐมนตรีก็โหวตทั้งนั้น หากคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นวิปคงพูดกันแล้ว อีกหน่อยวิปส.ส.แล้วต้องวิปรัฐมนตรีด้วย แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขไปตามกระบวนการ ตีความในศาลไป ผิดอย่างไรก็ต้องผิดตามนั้น หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการทำหน้าที่วันนั้นไม่ชอบ โหวตไม่ได้ รัฐมนตรีนั้นก็ต้องหลุดจากตำแหน่งไป แต่ถ้าตนจำไม่ผิดตนเห็นนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้เดินบอกห้ามกับรัฐมนตรีอีกหลายๆคนแล้ว แต่เข้าใจว่ารัฐมนตรีเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคมนั้นนั่งอยู่กันคนละแถว

เปลือยชีวิตชาว โรฮิงญากับชีวิตที่มากกว่าคำว่า โหดร้าย

อยู่ที่รัฐอาระกัน ก็เหมือนรอคอยความตาย สู้บากหน้ามาหาความหวังใหม่ดีกว่า