ปิดตำนานกองขยะภูทับเบิก ชาวบ้านเซ็งเจอแมลงวันบุกแทน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ สั่งปิดบ่อขยะบนภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า ให้กลายเป็นตำนาน โดยขยะที่เกิดจากการท่องเที่ยวนับแต่นี้จะถูกขนย้ายลงมาทิ้งที่ด้านล่าง หากมีการฝ่าฝืนนำขยะไปทิ้งจะมีโทษปรับ 2,000 บาท 

(19 พ.ย.) นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลง ที่ 9.2 จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำการนำรถน้ำผสมปูนขาวทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่บริเวณบ่อขยะซึ่งเกิดจากการท่องเที่ยวบนภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้ร่วมกับ หน่วยงานทหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบล ในการนำรถขยะมาทำการขนขยะบนภูทับเบิก ลงไปทิ้งที่บ่อขยะของเทศบาลเมืองหล่มสัก จนปัจจุบัน ไม่มีขยะหลงเหลือในพื้นที่

พร้อมกันนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลวังบาล ก็ได้นำป้ายข้อความห้ามนำขยะทุกชนิดมาทิ้งในบริเวณดังกล่าวฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท โดยจะให้ทางผู้นำชุมชน รวมทั้งชาวชุมชนม้งภูทับเบิก ช่วยกันดูแล ส่วนขยะที่เกิดจากการท่องเที่ยวทั้งหมดก็ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้แยกชนิดของขยะ โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลวังบาล จะเป็นผู้นำรถบรรทุกขยะ ขึ้นไปขนขยะ ลงมาทิ้งที่ด้านล่าง

นอกจากนี้ปัญหาของการขนย้ายขยะลงด้านล่างคือ ที่บ่อขยะมีขยะเปียกซึ่งมีไข่และหนอนตัวอ่อนแมลงวันอยู่ ซึ่งช่วงการขนย้ายไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีกำจัด เมื่อไข่และหนอนฟักตัวกลายเป็นแมลงวัน จึงบินเข้าไปหาแหล่งอาหารในหมู่บ้าน จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาใช้อาหารล่อและฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดแล้ว ซึ่งตามวงรอบวงจรชีวิตของแมลงวันเหล่านี้จะอยู่ในราว 15 วัน หากทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ก็จะค่อยๆทยอยหายไป

ด้านชาวบ้านระบุว่า หลังจากขยะถูกขนย้ายแล้วก็มีกองทัพแมลงวันบุกหมู่บ้าน จนต้องจัดหาอุปกรณ์มาปิดครอบอาหารหรือใช้กาวมาวางดักแมลงวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลก็แจ้งเตือนให้ชาวบ้านรับประทานอาหารร้อนและใช้ภาชนะปิดครอบอาหารให้ดี เนื่องจากมีชาวบ้านหลายรายเริ่มเกิดอาการท้องเสีย

ด้านนายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ตนเองอยากขอความร่วมมือจากบรรดานักท่องเที่ยวขอให้ช่วยนำขยะที่ตนเองขนขึ้นไป หลังเสร็จสิ้นการท่องเที่ยว ให้ช่วยขนลงมาทิ้งยังจุดรองรับขยะด้านล่าง ซึ่งตอนนี้ทางจังหวัดได้มีการรณรงค์แจกถุงดำ สำหรับใส่ขยะให้กับนักท่องเที่ยวแล้ว โดยดำเนินการมาได้ราว 1 สัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร