กองปราบบุกรวบหนุ่มผู้ช่วย อส. อำเภอเฝ้าไร่ หนองคาย ตามหมายจับหลังก่อเหตุพรากผู้เยาว์และข่มขืน ตั้งแต่ปี 51 หนีกลับมาทำนาที่บ้าน และเข้าเป็นผู้ช่วย อส. สารภาพเรียนวิชาหมอเสน่ห์ด้วยตัวเอง ทำอนาจารเด็กมาแล้วหลายราย
เมื่อเวลา 11.00 น. (12 พ.ย.) พ.ต.อ.วรพงษ์ นันทลักษณ์ ผกก.สภ.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย, พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล สารวัตรกองกำกับการ3 (สว.กก.3) นายกฤตธัช ดาหา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เฝ้าไร่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายพีรพัฒน์ หรือ ศักดา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.375/2551 ลงวันที่ 18 เมษายน 2551
ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมนายพีรพัฒน์ ได้ขณะที่ขับรถยนต์กระบะโตโยต้าไฮลักซ์ ไทเกอร์ สีเทา ทะเบียน บร 1494 อุดรธานี เป็นรถรับส่งนักเรียน มาตามถนนลูกรังระหว่างบ้านโพนทอง ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เฝ้าไร่
จากการสอบสวนนายพีรพัฒน์ ให้การว่า เมื่อประมาณปี 2550 ตนเข้าเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อปลดประจำการแล้วได้ทำงานรับเหมาวางท่อประปาที่กรุงเทพฯ
ระหว่างนั้นมีความสนใจในการทำพิธีกรรม ลงนะ หน้าทอง ปลุกเสก และทำเสน่ห์ จึงได้หาซื้อหนังสือมาศึกษาด้วยตนเอง ช่วงว่างจากการทำงานรับเหมาก็จะรับสักยันต์ให้ชายหนุ่ม โดยมีหญิงสาวอายุประมาณ 15-18 ปี มาขอให้ช่วยทำเสน่ห์ยาแฝกให้ โดยตนจะให้ผู้หญิงเปลือยกายแล้วทำทีเป็นร่ายคาถาทำพิธีให้ ทำมาแล้วหลายคน
ซึ่งวันหนึ่งมีหญิงสาวที่ตนแอบชอบมาทำเสน่ห์ด้วย ตนจึงใช้วิธีเดียวกันนี้แล้วลงมือข่มขืน สำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลังจากนั้นประมาณปี 2555 ตนได้เดินทางกลับมาช่วยแม่ทำนาที่บ้าน และสมัครเข้าเป็นผู้ช่วยอาสาสมัครรักษาดินแดนของอำเภอเฝ้าไร่ โดยไม่ทราบว่าหญิงสาวไปแจ้งความไว้
พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล สารวัตรกองกำกับการ3 (สว.กก.3) กล่าวว่า คดีนี้ทางกองปราบได้ติดตามจากหมายจับคดีค้างเก่า สืบสวนจนทราบว่านายพีรพัฒน์ หลบหนีมายังที่ อ.เฝ้าไร่ จึงได้วางแผนจับกุม ได้ดังกล่าว จากนั้นจะได้คุมตัวกลับไปส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ข้าวของท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.