อัยการไม่หนักใจคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ยันรอบคอบ

'อธิบดีอัยการคดีอาญาใต้' ไม่หนักใจสั่งคดีโอนหุ้น 300 ล้าน เสี่ยชูวงษ์ เน้นหลักดูสำนวนรอบคอบ - กำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เปิดเผยถึงกรณีพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 52 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์, น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อายุ 26 ปี อดีตพริตตี้, น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี อาชีพโบรกเกอร์ และ น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี มารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาในคดีปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์การรับโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 58 ให้อัยการว่า ตนได้รับสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐาน จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเอกสารประกอบในสำนวน ประมาณ 8 แฟ้มใหญ่ ซึ่งข้อหาเป็นไปตามที่พนักงานสอบสวนเคยแจ้งไว้ หลังได้รับสำนวนแล้ว จึงได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนโดยมอบหมายให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเป็นคดีการปลอมเอกสารเหมือนคดีทั่วไป การพิจารณาสำนวนหากอัยการเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีความผิดอื่นเพิ่มเติมอัยการก็มีอำนาจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ซึ่งการพิจารณาคดีเพื่อมีคำสั่งฟ้องหรือไม่และการควบคุมตัวจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน ถ้ามุ่งแต่จะพิจารณาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกำหนดการควบคุมตัว อาจเกิดผลเสียกับทุกฝ่ายได้

ดังนั้น การพิจารณาจึงเน้นหลักความละเอียดรอบคอบ ถูกต้อง นำความรวดเร็ว สำหรับกำหนดระยะเวลาฝากขังคดีนี้ในส่วนของ น.ส.อุรชา และ น.ส.ศรีธรา แม่ของ น.ส.อุรชา นั้น จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันที่ 12 ต.ค. ขณะที่ น.ส.กัญฐณา พริตตี้สาว จะครบกำหนดฝากขังวันที่ 13 ต.ค. นี้ โดยมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ส่งสำนวนคดีโอนหุ้น ให้อัยการพิจาณาแล้ว พ.ต.ท.บรรยิน หนึ่งในผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในกาพิจารณาสั่งคดีแล้ว เพื่อขอให้มีการสอบพยานเพิ่มเติม