สมยศปัดบึ้ม ราชประสงค์ก่อการร้ายคาดดิสเครดิตรบ.

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มั่นใจ ระเบิดราชประสงค์ ไม่ใช่การก่อการร้าย เชื่อต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ขณะที่ ตม. สกัดเข้มทุกด่าน ป้องกันคนร้ายเผ่นออกนอกประเทศ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมทำบุญ 5 ศาสนา ว่า จากการเรียกคนขับตุ๊กตุ๊ก ที่ขับรถไปส่งคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดย่านราชประสงค์ จากนี้ข้อมูลทุกอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมถึงคำพูดของตุ๊กตุ๊ก และมั่นใจว่า การก่อเหตุที่ราชประสงค์ ไม่ใช่การก่อการร้าย เพราะการประสานงานจากฝ่ายความมั่นคง และการให้ข้อมูลจากหน่วยงานต่างประเทศ ก็ระบุว่า ไม่ใช่การก่อการร้าย และเชื่อว่าคนร้ายทำเป็นขบวนการอาจจะมากกว่า 10 คน หรือ น้อยกว่าก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่จากการวิเคราะห์เชื่อว่า เป็นการดิสเครดิตรัฐบาล ทำลายภาพลักษณ์ การท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัวไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย พร้อมขอให้ตำรวจทุกนาย ขอความร่วมมือ ถ้าไม่จำเป็นห้ามเปิดเผยข้อมูลทางคดี
ตม.สกัดเข้มทุกด่านป้องกันมือระเบิดราชประสงค์เผ่นนอก
ทีมโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งกำชับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ขาออก ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระวังและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของชายต่างชาติ ลักษณะคล้ายภาพผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยให้ทำการ x-ray พื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ นอกจากนี้ ตามด่านต่างๆ ทั่วประเทศยังได้นำาภาพสเกตช์ของชายเสื้อสีเหลืองตามหมายจับ ไปติดประกาศไว้ เพื่อให้ประชาชนตลอดจนผู้พบเห็นเบาะแส ช่วยเป็นหูเป็นตาและประสานกับเจ้าหน้าที่หากพบเบาะแสอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังมีการออกหมายจับชายตามภาพสเกตช์ เจ้าหน้าที่ได้เชิญชายต่างชาติที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหามาสอบถามแต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงหรือมีเบาะแสของคนร้ายแต่อย่างใด และขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้
สมยศยันคดีบึ้มมีพยานมากกว่า1คน-นำจับ3ล.
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการข่าวของสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายแฝงตัวมาในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยมีการประสานหน่วยข่าวกรองทั่วโลกและทุกหน่วยงานความมั่นคงให้ร่วมมือติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ของประเทศต่างๆ เข้ามาใช้ในการสืบสวน อย่างเช่น การตรวจสอบใบหน้าคนร้ายให้มีความคมชัดง่ายต่อการติดตามตัว ซึ่งก็ยอมรับว่า ต่างประเทศเองก็มีความเป็นห่วง และเตือนประชาชนแต่ละประเทศ เกี่ยวกับการก่อการร้ายในประเทศไทย โดยไทยก็น้อมรับในความเป็นห่วงของนานาประเทศ ทางตำรวจได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก
ส่วนในความคืบหน้าของคดีนั้น ยืนยันว่า พยานมีมากกว่า 1 คน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจพนักงานสอบสวนที่จะเชิญตัวมา แต่หลังจากนี้ จะไม่เปิดเผยรายละเอียดพยานใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงกำชับให้งดให้รายละเอียดของคดีกับสื่อมวลชน ส่วนเหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทรนั้น ขณะนี้ ยังไม่ชัดเจนว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เนื่องจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งสองจุดยังไม่สอดคล้องกัน แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ท่าเรือสาทรมีการใช้วัตถุระเบิดคล้ายคลึงกันกับเหตุระเบิดที่ผ่านมา เช่นที่ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และล่าสุด ก็ได้มีการเพิ่มเงินรางวัลนำจับอีก 1 ล้านบาท เป็น 3 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน
สำหรับ กรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศสำนักหนึ่ง ได้เก็บชิ้นส่วนของระเบิดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากเป็นเวลานอกราชการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าสื่อมวลชนดังกล่าวมีความรู้เรื่องวัตถุระเบิดหรือไม่ โดยยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการเก็บรวบรวมหลักฐานเพียงพอแล้ว และจะไม่ตรวจซ้ำอีก
โฆษกตร.ยันมีภาพขณะระเบิด-เผยแพร่ไม่ได้
พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกระแสโลกออนไลน์ พูดถึงคลิปที่คนร้ายสวมเสื้อสีเหลือง วางกระเป๋าต้องสงสัยไว้ที่ม้านั่งในศาลพระพรหม แต่ไม่มีจังหวะระเบิด จนเกิดคำถามว่า ระเบิดทำงานจากกระเป๋าเป้ใบที่เห็นในคลิปหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ยืนยันว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้ตลอดเวลาจนกระทั่งระเบิด และขอยืนยันว่า การระเบิดเกิดจากกระเป๋าเป้ใบที่ถูกวางไว้บริเวณม้านั่งจากชายเสื้อเหลืองจริง แต่ที่ไม่สามารถเปิดเผยภาพได้ เพราะเป็นภาพที่รุนแรง และไม่น่าดูอย่างมาก ส่วนรายละเอียดอื่นกำลังตรวจสอบ
สำหรับกรณีชายเสื้อแดงในภาพที่กล้องสามารถบันทึกได้ จะเข้าให้ปากคำที่ สน.ลุมพินี อีกครั้งวันนี้ ส่วนตัวเข้าใจว่าชายดังกล่าวเข้าให้ปากคำเมื่อวานแล้ว โดยเดินทางมาถึงหลังรถตุ๊กตุ๊กไม่นาน วันนี้ไม่น่าจะมาอีกแล้ว ซึ่งเมื่อวานก็มีการแถลงความชัดเจนไปแล้วทั้งรถตุ๊กตุ๊ก และชายเสื้อแดง