ชูวิทย์มาศาลฎีกาคดีรื้อบาร์เบียร์พร้อมรับคำตัดสิน

'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีรื้อบาร์เบียร์แล้ว ยืนยัน น้อมรับคำตัดสินของศาลทุกกรณีท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก ศาลอาญาใต้ เลื่อนอ่านฎีกา เป็น15 ต.ค. นี้ เวลา 9.00 น. เหตุจำเลยบางส่วนไม่มาศาล

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย จำเลยในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท ซ.10 เมื่อปี 2546 พร้อมทนายความ และภรรยา ที่มาให้กำลังใจ เดินทางมายังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฟังคำพิพากษาในชั้นฎีกา ซึ่งวันนี้ นายชูวิทย์ ยังได้เตรียมอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว อาทิ ขันน้ำพลาสติก สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มาโชว์ให้สื่อมวลชนดู

โดย นายชูวิทย์ กล่าวก่อนเข้าห้องพิจารณา ว่า ตนพร้อมยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด โดยไม่คิดขอลดหย่อนโทษ และที่เตรียมอุปกรณ์มาก็ไม่ได้คิดประชดอะไร แต่หากศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ตนเองก็จะเดินหน้าทำงานด้านการเมืองต่อไป ซึ่งตนจะยื่นคำร้องขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกาในวันนี้ เพราะคดีดังกล่าวยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่า 12 ปี และจำเลยมีจำนวนมากไม่ต้องการให้จำเลยอื่นเสียเวลามาศาลบ่อยครั้ง

ขณะที่บรรยากาศ ที่ห้องพิจารณาคดี 601 มีจำเลยร่วม และโจทก์ร่วม ในคดี มาฟังคำพิพากษาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดระเบียบจำเลย ติดเบอร์ให้เฉพาะจำเลย และนายประกันให้เข้าฟังคำพิพากษา ซึ่งล่าสุด ยังไม่มีคำสั่งอนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าฟังการพิจารณาคดี

ศาลเลื่อนอ่านฎีกา เป็น15 ต.ค. เหตุจำเลยบางส่วนไม่มาศาล

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง นัดเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท ซ.10 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย, พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา, พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 131 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืน และกักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืนใจให้บุคคลอื่นปราศจากเสรีภาพ

จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ม.ค. ปี 2546 จำเลยได้สั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปรื้อบาร์เบียร์ 60 ร้าน ในซอยสุขุมวิท 10 จนได้รับความเสียหาย ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 เดือน นายชาญเวทย์ มาลัยบูชา จำเลยที่ 49 ซึ่งเป็นทนายความ ที่นำเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดินไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ให้ลงบันทึกประจำวันให้คนอื่นเข้าใจว่า การรื้อถอนของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง แต่ในชั้นศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับสั่งจำคุก นายชูวิทย์ กับพวกอีก 2 คน ที่เป็นนายทหาร คนละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอื่น ให้ยกฟ้อง

โดยวันนี้ มีจำเลยบางส่วนไม่เดินทางมาศาล เพราะป่วย บางส่วนติดภารกิจ และบางคนอ้างว่ายังไม่ได้รับหมาย ศาลจึงเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ออกไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. นี้ เวลา 9.00 น.

ศาลออกหมายจับเสธแอพ-พวกคดีรื้อบาร์เบียร์

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง นัดเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท ซ.10 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 131 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืนและกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลอื่นปราศจากเสรีภาพ จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ม.ค. 2546 จำเลยได้สั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปรื้อบาร์เบียร์ 60 ร้าน ในซอยสุขุมวิท 10 จนได้รับความเสียหาย ซึ่งคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับสั่งจำคุก นายชูวิทย์ กับพวกอีก 2 คน ที่เป็นนายทหาร คนละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอื่น ให้ยกฟ้อง

วันนี้ จำเลยบางส่วนไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุผล ศาลอาญาใต้ จึงมีคำสั่ง ออกหมายจับ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 4 คน และเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ออกไปเป็นวันที่ 15 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.