ไพบูลย์ชงนายกฯถอดยศทักษิณพรุ่งนี้รับห่วงเคลื่อนไหว

'พล.อ.ไพบูลย์' ชง นายกฯ ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ พรุ่งนี้ รับห่วงเคลื่อนไหว ด้าน นายกฯ รอ สตช. ก่อนทูลเกล้าฯ ขณะ 'วิษณุ' ยัน ฟ้องกฤษฎีกาไม่ได้

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกับสำนนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากการประชุมเมื่อวานนี้ ว่า ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสรุปรายงานโดยทางกระทรวงยุติธรรมได้มีการดูแลตรวจสอบความเรียบร้อยให้ชัดเจน ก่อนส่งให้นายกเพื่อดำเนินการต่อไปในวันพรุ่งนี้ เมื่อส่งแล้วอำนาจหน้าที่ในการถอดยศตำรวจต่อไปนั้นจะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่ในการดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้ ประเด็นที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การถอดยศผู้ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วไม่สามารถทำได้นั้นตนเองเชื่อประเด็นนี้กฤษฎีกาได้ตีความไว้ซึ่งชัดเจนหมดแล้วว่าสามารถทำได้ พร้อมรับห่วงเรื่องการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้

นายกฯ รอ สตช. ชงถอดยศ ทักษิณ ก่อนทูลเกล้าฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ได้ข้อยุติแล้ว เหลือเพียงรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการฟ้องกลับ ตามกฎหมายสามรถฟ้อง สตช. ได้ เพราะเป็นหน่วยงานที่พิจารณาเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ เนื่องจากทำหน้าที่เพียงให้ความเห็นเท่านั้น

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการทำบุญตักบาตรในช่วงเช้าแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยาและคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางไปศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558

โฆษก ตร. เผย ถอดยศ ทักษิณ รอรายงาน สกพ.

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการกระทรวงยุติธรรมมีมติให้ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการรายงานจากสำนักงานกำลังพล (สกพ.) รวมถึง พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ รายงานผลการประชุมให้ผู้บัญชาการตำรวจรับทราบ สำหรับกรณีที่มีตำรวจถูกถอดยศไปแล้วในอดีตถึง 636 นาย พบว่า เป็นการกระทำความผิดในคดีอาญาขณะดำรงตำแหน่ง ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเป็นคดีแรก เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโต้ตอบว่า ต้องการให้ดำเนินการถอดยศโดยเร็ว ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว

สำหรับคดีของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า ตำรวจได้ขอไฟล์เสียงที่ไม่ตัดต่อจากทั้ง 2 บริษัท ซึ่งเป็นไฟล์เสียงย้อนหลัง 3 เดือน คาดว่าใช้เวลา 1 สัปดาห์ ในการตรวจสอบ และยอมรับว่าขณะนี้เป็นห่วงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องในระดับที่รู้และรับทราบการโอนหุ้น อาจได้รับอันตราย ซึ่งตำรวจได้พยายามติดต่อและพูดคุยแล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีมากกว่า 2 คน และการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ อาจมีการกระทำเป็นกระบวนการ ส่วนเรื่องที่ญาติมายื่นหนังสือท้วงติงผลการชันสูตรหลังพบว่ามีความปกตินั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

พล.อ.ประวิตร ยึด กม.ถอดยศ ทักษิณ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังนำนายทหารระดับสูงถวายพระพรเนื่องในวันแม่ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า เป็นไปตามการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจทำงาน มีความเป็นมืออาชีพทั้งสิ้น เรื่องความเชื่อมั่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสร้างความเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศ หากมัวแต่ขัดแย้งกัน ประเทศจะเดินต่อไปได้อย่างไร

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงมติที่ประชุมของกระทรวงยุติธรรมให้มีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมย้ำว่าไม่มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด

สรรเสริญ ยัน รบ.ไม่ใช้อำนาจถอดยศทักษิณ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมมีมติถอดยศ 
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลไม่กังวลในกรณีดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องการถอดยศเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และสังคมได้รับข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ต้องการใช้อำนาจพิเศษเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนที่กระทรวงยุติธรรมต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาก่อนส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม พล.ต.สรรเสริญ ระบุว่า ไม่ได้มีการจับตาสถานการณ์หลังจากนี้เป็นพิเศษ ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น ได้มีกระบวนการทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่แล้ว