น้ำทะลักตะกั่วป่า-โคราชเขื่อนพิมายล้น,สกลฯพื้นที่เกษตรจม

พังงาน้ำป่าเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และสวนปาล์มน้ำมัน อ.ตะกั่วป่า สูง 1 เมตร ด้าน โคราช น้ำมูลล้นเขื่อนพิมาย จนท.เร่งระบายน้ำ หวั่นท่วม ขณะที่ สกลนคร น้ำท่วมพื้นที่เกษตรเสียหาย 3 หมื่นไร่
น้ำป่าที่ไหลจากเทือกเขากะปง ลงสู่แม่น้ำตะกั่วป่า เพื่อระบายลงสู่ทะเล ได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
และสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ราบลุ่ม หมู่ 3, 4, 7, ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ชาวบ้านประมาณ 10 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร และมีสีเหลืองขุ่น หากฝนไม่ตกเพิ่ม คาดว่า จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่ชาวบ้าน หมู่ที่ 7 บ้านบางกรัก มีบ้านที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่มยังมีน้ำท่วมขังใต้ถุนของบ้านประมาณ 50 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 และนำรถจักรยานยนต์จอดไว้บนถนน พร้อมเก็บข้าวของไว้บนที่สูง เพื่อเฝ้าระวังน้ำท่วม เนื่องจากยังมีการประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองตะกั่วป่า ยังได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่น้ำอาจจะเข้าท่วม เพื่อเป็นแนวทางป้องกันน้ำท่วมในเขตเทศบาลฯ และเตรียมความพร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง
โคราชน้ำมูลล้นเขื่อนพิมาย-เร่งระบายหวั่นท่วม
หลังจากที่เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงสัปดาห์ ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองธรรมชาติเพิ่มขึ้น และไหลเข้าสู่ลำน้ำสายหลัก ทั้งลำตะคอง และลำมูล โดยเฉพาะที่บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ หรือเขื่อนพิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำจากลำน้ำมูลและลำตะคอง ล่าสุด วันนี้ระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นออกฝายน้ำล้นของเขื่อน เจ้าหน้าที่ฯ ต้องเปิดประตูเขื่อนทั้ง 6 บาน เพื่อระบายน้ำลงสู่ที่ต่ำ ป้องกันไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำมูล ขณะเดียวกัน ก็ได้ยกบานประตูทั้ง 2 บาน ของประตูคลองส่งน้ำชลประทาน เพื่อส่งน้ำไปให้เกษตรกรสำหรับใช้ทำนาปี โดยคาดว่าระดับน้ำในลำน้ำมูลจะยังคงสูงขึ้นอีก เนื่องจากระยะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
สกลนครน้ำท่วมพื้นที่เกษตรเสียหาย3หมื่นไร่
นายวิชาญ แท่นหิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สกลนคร เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องใน จ.สกลนคร ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน อ.สว่างแดนดิน ทั้ง 16 ตำบล เสียหายกว่า 30,000 ไร่ ทั้งนี้ น้ำที่ไหลเข้าท่วมดังกล่าว ได้ไหลลงที่ลุ่ม ใน อ.เจริญศิลป์ อากาศอำนวย และ วานรนิวาส บางส่วน อย่างไรก็ตาม นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้มีการสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานไปยังนายอำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์และประกาศให้ อ.สว่างแดนดิน เป็นเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน(อุทกภัย)แล้ว ทั้งนี้ นายกองเอก วิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ ประธานฝ่ายบรรเทาทุกข์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยจัดส่งถุงยังชีพให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1,000 ครัวเรือน ที่ อ.สว่างแดนดิน คาดว่าจะสามารถนำไปแจกจ่ายได้ในวันที่ 11 ส.ค. 58 นอกจากนี้การให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง กรณีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย อัตราไร่ละ 1,113 บาท จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อเยียวยาราษฎรที่ได้รับผลกระทบ
จึงอยากฝากให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยทาง ปภ.เอง ได้จัด จนท.เฝ้าระวังสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง