"บรรยิน"ให้ปากคำเพิ่มกับ"ผู้ช่วย ผบ.ตร." ยันไม่มีความขัดแย้งกับครอบครัว"เสี่ยชูวงษ์"

อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าให้ปากคำคดีการเสียชีวิตของนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ยืนยันไม่เคยมีความขัดแย้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กองปราบปราม เพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต ซึ่งมี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ขับรถ พร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอง นายชูวงษ์ และหญิงสาวที่รับโอนหุ้น ขอให้การกับพนักงานสอบสวน
และส่วนตัวย้ำว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับครอบครัวของนายชูวงษ์ แต่การที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ ตั้งข้อสังเกตหรือสงสัยว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นเรื่องที่ญาติเข้าใจผิดไปเอง และยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ในสำนวนได้ รอให้คดีมีความคลี่คลายก่อน
พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าพบพลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กองปราบปราม เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ไปให้กับผู้หญิงคนสนิท 2 คน ก่อนที่นายชูวงษ์จะเสียชีวิต
พันตำรวจโท บรรยิน เปิดเผยว่า สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ทั้งหมด จะขอให้การกับพนักงานสอบสวน และส่วนตัวย้ำว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับครอบครัวของนายชูวงษ์ แต่การที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ ตั้งข้อสังเกต หรือสงสัยว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดไปเอง
ขณะที่พลตำรวจโทประวุฒิ เปิดเผยว่า พันตำรวจโทบรรยิน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้น แต่เป็นเรื่องระหว่างนายชูวงษ์ กับผู้หญิง 2 คน แต่ส่วนตัวก็ยอมรับว่า ทราบเรื่องการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพันตำรวจโทบรรยิน กับผู้หญิง 2 คน พันตำรวจโทบรรยิน ยอมรับว่า รู้จักกันแต่ไม่สนิทสนมเป็นการส่วนตัว
ส่วนการตรวจสอบคลิปเสียงที่ระบุว่า เป็นการซื้อขายหุ้นของนายชูวงษ์ ยังไม่ได้รับรายงาน จากกองพิสูจน์หลักฐาน แต่อาจจะมีต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันให้ได้ว่าไม่ใช่การเลียนเสียง ขณะที่การตรวจสอบลายเซ็นการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ขอเวลาในการตรวจสอบอีกสักระยะหนึ่ง จึงจะมีความชัดเจน
ส่วนกรณีที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ ร้องขอให้เปลี่ยนตัวพันตำรวจเอกทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พ้นจากการรับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ นั้นต้องแยกส่วนกัน เพราะคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นการสอบสวนของตำรวจนครบาล แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ควบคุมการสอบสวนคดีด้วยตัวเอง
พลตำรวจโทประวุฒิ ยังระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนางสาวกัญฐณา ศิวาธนพล และนางสาว อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) คนสนิทของนายชูวงษ์ ที่รับโอนหุ้นต่อ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่พบว่ามีความผิด ส่วนจากนี้จะเรียกบุคคลใดมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่มีอยู่