สอบพริตตี้สาวกว่า 7 ชม.ไม่แจ้งข้อหา-เร่งตรวจข้อมูลโทรย้อนหลัง
กองปราบฯ 23 ก.ค.-รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุพริตตี้สาวให้การยอมรับคบหาและตั้งครรภ์กับ "ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง" จริง ส่วนหุ้นมูลค่ากว่า 228 ล้านบาท อ้าง "ชูวงษ์" โอนให้เพื่อความมั่นคงในชีวิต และสนิทกับ "พ.ต.ท.บรรยิน" ถึงขึ้นโทรศัพท์ปรึกษากัน เร่งตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ย้อนหลัง พร้อมเรียกสอบ "พ.ต.ท.บรรยิน" เร็วๆ นี้ หลังการสอบปากคำนานกว่า 7 ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังพนักงานสอบสวนกองปราบปรามใช้เวลาสอบปากคำ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หญิงสาวคนสนิทที่รับโอนหุ้นมูลค่ากว่า 228 ล้านบาท จากนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ นานกว่า 7 ชั่วโมง ว่าล่าสุดพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้วเมื่อเวลา 16.50 น. และ น.ส.กัญฐณา ได้เดินทางกลับไปโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ด้านนายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความ กล่าวสั้นๆ ว่าได้ให้ข้อมูลต่างๆ ไปกับพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้ว และไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมกับสื่อมวลชนอีก เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี
พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า น.ส.กัญฐณา ให้การว่ามีความสัมพันธ์กับนายชูวงษ์ โดยเจอนายชูวงษ์และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่งในสนามกอล์ฟ ระหว่างที่คบหากันนายชูวงษ์ จะใช้โทรศัพท์ พ.ต.ท.บรรยิน โทรติดต่อกันตลอด และเวลาที่คบหากันนายชูวงษ์จะให้เงินสดใช้
แต่ก่อนเดือนมิถุนายนฝ่ายหญิงเปรยเรื่องความมั่นคงในชีวิต นายชูวงษ์จึงบอกว่า จะโอนหุ้นให้เพื่อความมั่นคง โดยฝ่ายหญิงมีการนำหุ้นที่ได้จากนายชูวงศ์ บางส่วนไปขายได้เงินมากว่า 30 ล้าน นำไปซื้อบ้านในกรุงเทพฯ มูลค่า 10 ล้านบาท และนำเงินให้กับครอบครัวส่วนหนึ่ง และยอมรับสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน มีการโทรศัพท์ปรึกษากันบ้าง
ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ย้อนหลังของ น.ส.กัญฐณา กับ พ.ต.ท.บรรยิน และอาจมีการเรียกสอบ พ.ต.ท.บรรยิน ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ น.ส.กัญฐณา ตั้งท้องกับยนายชูวงษ์จริง แต่ปฏิเสธที่จะไปตรวจดีเอ็นเอของเด็กในครรภ์ เนื่องจากไม่ต้องการให้เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับลูก
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า การสอบปากคำนางสาวกัณฐณาในวันนี้ สอบในฐานะพยาน จึงยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ตามที่ครอบครัวนายชูวงษ์มาแจ้งดำเนินคดีกับ น.ส.กัญฐณา เพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป คงต้องรอผลตรวจลายเซ็น และรอยแก้ไขชื่อ-สกุลของนายชูวงษ์ในเอกสาร จากกองพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าเป็นของจริงหรือไม่