แม่ร้องลูกสาววัย 15 ถูกข่มขืน ยกพวกขู่บนโรงพัก

แม่ร้องลูกสาววัย 15 ถูกข่มขืน ยกพวกขู่บนโรงพัก

แม่ร้องลูกสาววัย 15 ถูกข่มขืน ยกพวกขู่บนโรงพัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.เรณู อายุ 40 ปี ได้พาลูกสาว น.ส.เอ อายุ 15 ปี เข้าร้องทุกข์ว่าถูกนายบอย อายุ 19 ปี ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา และยังได้ทำร้ายร่างกายกลางตลาด จนนัยน์ตาห้อเลือด ร่างกายฟกช้ำดำเขียวไปทั้งร่างกายหลายแห่ง

จากการสอบสวน น.ส.เรณู กล่าวว่า ลูกสาวของตนเรียนอยู่ที่ชั้นม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และได้คบหากับนายบอยได้ไม่ถึงเดือน โดยทางตนได้ขอลูกสาวไว้ว่าให้เรียนจบก่อน

กระทั่งวันเกิดเหตุ นายบอยได้ใช้กลอุบายล่อลวงลูกสาวของตนเอง ไปข่มขืนกระทำชำเราที่ห้องพักแห่งหนึ่ง แถวตลาดพระอินทร์ราชา จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. นายบอยได้ทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเอง ด้วยการต่อยเข้าที่เบ้าตา และกระทืบหน้าอกและชกเข้าที่ลำตัวหลายแห่งจนฟกช้ำดำเขียว

จากนั้นได้ฉุดกระชากลากลงจากรถจยย.บริเวณกลางถนน ในตลาดพระอินทร์ราชา กระทั่งลูกสาวได้หนีกลับมาที่ห้องพัก และนำเรื่องมาบอกตนเองว่าถูกนายบอยซ้อมจนตาปิดบวมเป่ง และนัยน์ตาห้อเลือด ตนจึงพาไปรพ.ใกล้เคียง จากนั้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.พระอินทร์ราชา แต่ทางสารวัตรเวรพยายามให้มาพูดไกล่เกลี่ยกันในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 30 มิ.ย.

ระหว่างนั้นได้มีพี่เขยของคู่กรณีที่ทำงานเป็นอาสากู้ภัย ได้พาพวกกว่า 10 มาที่โรงพัก และพยายามเข้าไปตีสนิทกับทางตำรวจ ประมาณว่ารู้จักกับตำรวจเป็นอย่างดี และพูดจาเหยียดหยามว่าแค่คดีพรากผู้เยาว์ ประกันตัว 4-5 หมื่น ก็ออกมาได้ และบอกว่าที่ตนมาแจ้งความเพราะต้องการเงิน

ตนกลัวว่าลูกสาวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะลูกสาวถูกทำร้ายมาแล้วสองครั้ง และคู่กรณีมาพูดเยาะเย้ยว่าลูกสาวสมยอมเอง ทำให้ตนรู้สึกท้อใจ เพราะทางตำรวจไม่เรียกสอบสวนอย่างจริงจัง จึงตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิฯ ให้ช่วยเร่งรัดทางคดีความให้

โดยเมื่อสารวัตรเวรสอบสวนทราบข่าวว่า ตนพาลูกมาร้องมูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้โทรมาถามว่าตอนนี้อยู่ไหน และบอกว่าเรื่องของตนกำลังดำเนินการให้อยู่แล้ว เพราะจะสอบต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ จะต้องไปสอบที่ชั้นศาล ซึ่งตนก็ถามว่าทำไมเมื่อวานถึงไม่อธิบายให้ตนเข้าใจ และทำไมต้องไล่กลับด้วย ซึ่งสารวัตรก็เงียบไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ของมูลนิธิปวีณา กล่าวว่า จะเร่งนำเรื่องเสนอให้นางปวีณาตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขอขอบคุณภาพจาก INN

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook