จี้''จุรินทร์''แก้วิกฤติองค์การค้าฯ

จี้''จุรินทร์''แก้วิกฤติองค์การค้าฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการเข้ายื่นหนังสือต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. ศึกษาธิการ เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนการทุจริต และสภาพปัญหาขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า ตนได้ยื่นหนังสือดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าขณะนี้องค์การค้าฯ เข้าขั้นวิกฤติรุนแรง โดยมีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ขาดสภาพคล่อง และขาดทุนสะสม กว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาก็ได้มีหนังสือเวียนจากสำนักบริหารงานการเงินและบัญชี องค์การค้าฯ แจ้งว่า เงินเดือนประจำเดือน ม.ค.จะจ่ายให้แก่พนักงาน จำนวน 1,975 คน คนละครึ่งหนึ่งก่อน แต่ไม่ได้ระบุว่าส่วนที่เหลือจะจ่ายให้เมื่อไหร่ นอกจากนี้ตนยังได้รับเอกสารเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต จากสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ ถึง เรื่อง เช่น การขายสินค้าผ่านหัวบิล การจัดจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีคดีลักทรัพย์หนังสือเรียนพัวพันมาต่อสัญญาจ้างใหม่ และการนำเงินกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ จำนวน 80 ล้านบาท ไปใช้ไม่เป็นไปตามระเบียบกองทุนฯ เป็นต้น

หากไม่สะสางปัญหาที่เกิดขึ้น องค์การค้าฯจะเป็นเขตคอร์รัปชั่นพิเศษอย่างแน่นอน และภายในต้นเดือนก.พ.นี้สหภาพองค์การค้าฯจะนัดชุมนุมใหญ่ด้วย ซึ่งผมไม่อยากเห็นองค์การค้าฯต้องขายที่ดินย่านลาดพร้าวมาใช้หนี้ และเท่าที่คุยกับนายจุรินทร์ ก็บอกว่า องค์กรนี้เป็นองค์กรฯที่ต้องปรับรื้อขนานใหญ่ เพราะไม่ว่าจะหาแนวทางไหนมาช่วยก็ยังไม่สามารถฟื้นองค์การค้าฯขึ้นมาได้ ต้องปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด โดยเชื่อว่าหากการปรับโครงสร้างประสบความสำเร็จก็จะสามารถรองรับการจัดสรรงบประมาณเรียนฟรี 15 ปีได้ ดังนั้นองค์การค้าฯต้องพิสูจน์ตัวเองให้กระทรงศึกษาธิการและรัฐบาลมีความเชื่อถือให้ได้ นายสมเกียรติ กล่าว

ด้าน นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้าฯ กล่าวว่า กรณีการจ่ายเงินเดือนครึ่งเดือนนั้น ตนได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการลูกจ้าง และสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ แล้วว่าเป็นเพราะองค์การค้าฯ ยังไม่มีเงิน เนื่องจากช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาไม่มียอดสั่งซื้อสินค้า ส่วนการนำเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์เจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา (สอ.อค.) จำนวน 30 ล้านบาท มาจ่ายเป็นเงินเดือนพนักงานนั้น ตนกำลังหารือกับทาง สอ.อค.อยู่ว่าจะต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไร โดยยืนยันว่าจะเร่งหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด สำหรับการทุจริตในองค์การค้า 15 เรื่องนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook