สธ.เผยชายติดเมอร์สอาการทรงจับตา59คนใกล้ชิด

สธ.เผยชายติดเมอร์สอาการทรงจับตา59คนใกล้ชิด

สธ.เผยชายติดเมอร์สอาการทรงจับตา59คนใกล้ชิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปลัด ก.สาธารณสุข เผย ชายติดเมอร์สอาการทรงตัว จับตากลุ่มเสี่ยง 59 คน กักตัวพักห้องคัดแยก ร.พ.แล้วกว่า 10 ราย เชื่อควบคุมได้ ทางด้าน รองนายกฯยงยุทธ ยัน ไทยมีความพร้อมรับมือเชื่อไม่ระบาดเหมือนเกาหลีใต้

นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้า ชายวัย 75 ปี ชาวตะวันออกกลางที่ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ ไวรัสเมอร์ส ว่า อาการยังทรงตัว ไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสโรค 59 รายนั้น มีการเชิญมานอนที่ห้องแยกโรคในโรงพยาบาลต่าง ๆ มากกว่า 10 ราย แม้จะไม่มีอาการแต่ถือว่าเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด ส่วนรายอื่น ๆ นั้น ให้เฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่จะโทรเช็กอาการ และให้รายงานตัวทุกวัน บางรายมีแพทย์
ไปเยี่ยมถึงที่บ้าน ทั้งนี้ ก็ต้องดูพฤติกรรมของแต่ละบุคคลด้วย ว่าไว้ใจได้สามารถปฏิบัติตามได้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่า 59 รายนี้ ยังไม่มีอาการใดๆ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้ เพราะผู้ป่วยรายนี้หลังจากลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ ก็เดินทางด้วยแท็กซี่มายังโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคประจำตัวทันที ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการเห็นว่าเป็นชาวตะวันออกกลางและมีความดันเป็นลบ จึงให้พักห้องแยกโรค ดังนั้น เชื่อว่าโอกาสแพร่เชื้อมีน้อย

นอกจากนี้ นายแพทย์สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันนี้จะมีการสอบสวนในเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ป่วยรายนี้อีกครั้ง หลังจากที่สอบสวนตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา จนสามารถได้ผู้ใกล้ชิดเกือบทั้งหมดเพื่อให้ควบคุมโรคให้ได้มากที่สุด

 

ทางด้าน นายยงยุทธ ยุทธวงค์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงมาตรการดูแลและป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ ไวรัสเมอร์ส ภายหลังที่พบผู้ติดเชื้อเป็นชายวัย 75 ปี ชาวตะวันออกกลาง ว่า รัฐบาลมีการความพร้อมรับมือเป็นอย่างดี โดยมีคณะกรรมการเตรียมการป้องกันโรคอยู่แล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการประชุมหารืออยู่ตลอดตั้งแต่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเชื่อว่า การพบผู้ติดเชื้อที่ประเทศไทย แตกต่างจากประเทศเกาหลีใต้ที่มีการระบาดแน่นอน เนื่องจากไทยมีความพร้อมเตรียมรับมือค่อนข้างดี ตรวจสอบได้รวดเร็วขณะที่ยังเป็นช่วงแรก ทำให้เชื้อมีน้อยไม่สามารถเผยแพร่กระจายได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม ยังคงเฝ้าติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด อาทิ คนขับแท็กซี่ 2 รายที่รับส่งผู้ป่วยรายนี้ หรือ ผู้โดยสารในเครื่องบิน 2 แถว หน้า-หลัง ส่วนญาติ 3 รายนั้นกักตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อเฝ้าดูอาการต่อไป

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล