ชาวนาสุโขทัย ยอมเสี่ยงทำนาแห้งสู้แล้ง

ชาวนาสุโขทัย ยอมเสี่ยงทำนาแห้งสู้แล้ง

ชาวนาสุโขทัย ยอมเสี่ยงทำนาแห้งสู้แล้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวนาสุโขทัย ทำนาแห้งปลูกข้าวนาปี สู้วิกฤตภัยแล้ง และยอมเสี่ยงกับการขาดทุน

นายคเนตร ช่วยบำรุง เกษตรกรชาวนา ตำบลทับผึ้ง อ.เมือง สุโขทัย เปิดเผยว่า เกษตรกรทำนา 2 หมู่บ้าน ต.ทับผึ้ง อ. ศรีสำโรง หันมาทำนาแห้ง ปลูกข้าวนาปี สู่วิกฤตภัยแล้งกันเป็นปีแรก แม้ว่าขณะนี้ทางชลประทานจังหวัดสุโขทัยจะสูบน้ำจากแม่น้ำยมมายังคลองลอย เพื่อให้เกษตรกรสูบน้ำทำนา แต่กำหนดการใช้น้ำให้หมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านผลัดกันสูบน้ำทำนาหมู่บ้านละ 2 วัน จึงทำให้ปริมาณน้ำไม่พอเพียงต่อการทำนา ทำให้เกษตรกรชาวนา หมู่ที่ 3 บ้านเกาะวงษ์เกียรติ์ และหมู่ที่ 4 บ้านเตว็ด ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย หันมาทำนาแห้งปลูกข้าวนาปีกว่า 2,000 ไร่ เนื่องจากในปีนี้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลและในพื้นที่ทำนาให้ขาดแคลนน้ำในการทำนาปี แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาก็ไม่มีน้ำฝนที่เพียงพอ เกษตรกรชาวนา จึงต้องยอมเสี่ยงในการทำนาแห้งปลูกข้าวนาปี

ส่วนวิธีการทำนาแห้ง จะทำโดยการไถ่ดิน และหว่านเมล็ดข้าวลงดินที่แห้ง เพื่อรอน้ำฝนตกลงมา เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งเกษตรกรชาวนาทุกรายที่ลองทำนาแห้งนี้ยอมเสี่ยงกับการขาดทุน หากภายใน 30 วัน ฝนไม่ตก จะทำให้ข้าวที่หว่านแห้งตาย ซึ่งการทำนาแห้ง ยังเป็นการลดต้นทุนมากกว่าการเพาะปลูกข้าวนาดำ เนื่องจากตอนนี้ราคาข้าวเปลือกเกวียนละ 5,000 บาท แต่การทำนาดำ จะต้องมีน้ำแต่ปัจจุบันนาข้าวไม่มีน้ำ และการทำนาดำจะต้องว่าจ้างคนมาดำนา เมื่อเปรียบเทียบราคาข้าวเปลือกกับการทำนาดำเท่ากับขาดทุน ครั้งนี้ชาวนาตำบลทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย  จึงยอมเสี่ยงที่จะขาดทุนในการทำนาแห้งปลูกข้าวนาปี แม้ว่าฝนจะไม่ตก และอาจจะขาดทุนก็ขาดทุนน้อยกว่าการทำนาดำ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook