"ปลานิล แม็กซิม" เปิดใจเสียรู้!! พระเอกเกย์หลอก

จากกรณีโพสต์สเตตัสระบายรักผ่านเฟซบุ๊ค "พึ่งรู้ โดนหลอก คบกับเกย์ บอกตรงๆ ก็ได้ จะได้เป็นเพื่อนสาว..." ของเซ็กซี่สตาร์ "ปลานิล หทัยรัตน์ นามปัญญา" หรือ "ปลานิล แม็กซิม" ที่กำลังตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างคึกโครมในโลกโซเชียลว่า สรุปแล้วบุคคลที่เจ้าตัวเอ่ยถึงใช่ "ดาราหนุ่มดาวรุ่ง อักษรย่อ B" ที่เคยเป็นข่าวด้วยกันหรือเปล่า !?

ซึ่งล่าสุดในรายการ "EFM ON TV" ช่อง GMM25 สาวปลานิลได้ถือโอกาสออกมาเปิดใจถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองด้วยว่าสาเหตุที่โพสต์สเตตัสดังกล่าวขึ้นเฟซบุ๊คนั้นไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร หรือต้องการเกาะกระแสใครเพื่อสร้างข่าวอย่างแน่นอน...

เกี่ยวกับกระแสข่าวพอจะบอกได้ไหมว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราตัดสินใจโพสต์สเตตัสแบบนั้นเกิดขึ้นจากอะไร ?
"ก็คือหนูบังเอิญรู้ความจริงว่าคนที่หนูเคยคบเป็นเกย์ แล้วด้วยอารมณ์ที่แบบเราเคยคบคน ๆ หนึ่งแล้วต้องมารู้ทีหลังว่าถูกเขาหลอกเรา มันก็ปรี๊ดนะพี่ ก็เลยพิมพ์ไปตามนั้น ซึ่งหนูก็ไม่คิดมาก่อนว่ามันเป็นข่าว"

พอจะบอกได้ไหมว่าเรากับเขาคบกันนานแค่ไหน ?
"ถ้ารู้จักกันก็ประมาณ 1 ปีค่ะ แต่ถ้าคบกันไปกินข้าวดูหนังก็ประมาณ 4 - 5 เดือน แล้วหลังจากนั้นไม่นานเหมือนว่าค่อย ๆ หายหน้ากันไป"

แสดงว่าตอนนั้นเรากับเขาก็ไม่ได้ใช้สถานะว่าเป็นแฟน ?
"ยังค่ะ แต่หนูเคยถามเขาว่าเราคบกันแบบไหน ซึ่งเขาก็เงียบไม่ตอบ พอเขาไม่ชัดเจนแบบนั้นหนูก็เลยไม่อยากคบต่อ แล้วก็เลือกที่จะหายหน้าไปดีกว่าค่ะ"

ตอนที่จีบกันใครเป็นฝ่ายเข้ามาจีบก่อน ?
"เป็นการบังเอิญเจอที่งานวันเกิดค่ะ เพราะพี่หนูรู้จักเขาชวนหนูไปวันเกิดเขาเราก็เลยได้รู้จักกัน แต่ ณ ตอนนั้นเขายังไม่ได้รู้จักหนู พอดีมันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้ต้องไปเจอเขาอีกครั้งหนึ่งซึ่งครั้งนี้เป็นในห้าง และตอนนั้นตัวหนูเองเป็นฝ่ายที่ไปทักเขาก่อน พอทักปุ๊ปเขาก็แบบ อ๋อ!! นึกออกแล้ว จากนั้นก็หนูก็ขอเขาถ่ายรูปเพราะด้วยความที่เขาเป็นดารานักแสดงเนอะ แล้วพอถ่ายเสร็จเขาก็ขอไลน์หนูและเราก็ก็คุยกันผ่านทางไลน์มาเรื่อย ๆ ค่ะ"

ตอนที่เราอยู่กับเขามันมีอะไรน่าสงสัยไหมหรือว่าเขาก็เป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ?
"ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลยพี่เขาดูสุขุมมาก แต่หนูก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่คนรอบข้างจะบอกเราตลอดว่า เป็นนะ นางเป็นนะอะไรอย่างนี้ หนูก็แบบไม่ใช่หรอกแมนจะตาย คือตอนนั้นเชื่อเต็ม ๆ ว่าเขาเป็นผู้ชาย"

ตอนนั้นเขามีชื่อเสียงหรือยัง ?
"มีแล้วค่ะ เป็นงานภาพยนตร์"

แล้วทำไมจู่ ๆ เราถึงได้เปลี่ยนความคิดแล้วปักใจเชื่อว่าเขาเป็นเกย์ ?
"อย่างแรกนะ ก็คือมีคนเข้ามาบอกอยู่เรื่อย ๆ ว่าเขาเป็นเกย์ พวกพี่เป็นน้องที่เคยเรียนสถาบันเดียวกัน และอีกครั้งที่มันค่อนข้างชัดเจนก็คือมีน้องคนหนึ่งซึ่งเขาเป็นห่วงหนู เขาก็เลยก็อปรูปมาให้ดู ซึ่งเป็นรูปแฟนเก่าของผู้ชายนี้"

พอจะบอกรายละเอียดได้ไหมว่ารูปที่เห็นเป็นลักษณะไหน ?
"ไม่ใช่รูปคู่ค่ะ แต่เป็นรูปแฟนเก่ากำลังอุ้มหมาส่งมาให้ดูแล้วมีข้อความแบบว่า ที่รัก หวาน ๆ จนแบบหนูมั่นใจมาก ก็เลยทำให้ปรี๊ดแตกและระบายในเฟซจนเป็นประเด็นนี่แหละค่ะ"

เรายุติความสัมพันธ์เขาก่อนหรือว่าเราเห็นหลักฐานแล้วถึงยุติความสัมพันธ์ ?
"อ๋อ อันนี้คือจบไปแล้ว จบไปตั้งแต่มีข่าวช่วงแรกแล้ว คืออันนี้ไม่รู้ว่าพี่รู้รึเปล่านะช่วงที่แบบ เขาบอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันแค่คนรู้จักเฉย ๆ เราจบกันตั้งแต่ช่วงนั้น พี่เข้าใจอารมณ์ผู้หญิงคนหนึ่งไหมคะ ที่แบบชอบใครซักคนแล้วแบบชอบเขามาก แต่เขากลับไม่ชัดเจนกับเราซักที จนมารู้ทีหลังว่าโดนหลอก มันก็เลยปรี๊ด"

เหมือนพอตอนนี้เรื่องมันกลายเป็นประเด็นปุ๊ปคนก็เลยมองว่าเราตั้งใจเกาะกระแสเขาดัง ?
"หนูขอพูดตรงนี้เลยนะคะว่าหนูไม่เคยเกาะใครดัง ถ้าหนูจะเกาะดังหนูเกาะคนอื่นดีกว่า อีกอย่างหนูก็มีตำแหน่งของหนูอยู่ซึ่งอาจจะไม่ได้ดังมากแต่ว่าหนูก็ขออยู่ในส่วนของหนูดีกว่า ส่วนประเด็นข่าวนี้หนูก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าคนจะให้ความสนใจ เพราะปกติแล้วอย่างที่บอกหนูเป็นคนที่ชอบระบายความรู้สึกในเฟสบุ๊ค แต่สำหรับอันนี้จู่ ๆ ก็มีมือดีเอามาสร้างให้เป็นข่าว แล้วจากนั้นนักข่าวก็โยงกันไปต่าง ๆ นานา ซึ่งตัวหนูเองก็ตกใจเหมือนกัน ถามว่าหนูเครียดไหม แน่นอนมันก็ต้องเครียด เพราะหนูไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น เพียงแต่มันเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตอนที่หนูโพสต์ตัวหนูเองก็ไม่ได้ระบุชื่อด้วย มีก็แต่เพื่อนหรือน้อง ๆ ในเฟซเขาเอ่ย เพราะตัวหนูเองก็ไม่ได้ระบุนามอะไรคน ๆ นี้เลย"

อย่างบางคนก็มองเป็นอาจจะเป็นเพราะฝ่ายชายไม่ยอมสานสัมพันธ์กับเราต่อ เราก็เลยเลือกที่จะใส่ร้ายป้ายสีเขา ?
"หนูไม่เคยคิดจะทำร้ายใครเลย ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดขนาดนั้น แต่ถ้าลองคิดว่าเป็นตัวเองถ้ามีคนมาหลอกจะคิดยังไงอย่างน้อยก็ต้องปรี๊ดบ้าง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อให้เขาเสียหาย ไม่ได้แฉ แต่ถ้าแฉหนูแฉแรงกว่านี้"

ทางฝ่ายนั้นตอบโต้เรามาบ้างไหมหรือว่าเงียบอยู่ ?
"ยังเงียบอยู่ค่ะ เพราะว่าหนูก็ไม่ได้รับการติดต่ออะไรจากเขาเลย"

กลัวไหมว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้คนเกลียดเรา ?
"กลัวค่ะ กลัวคนเกลียด ซึ่งหนูยืนยันนะคะว่าสิ่งที่หนูโพสต์หนูไม่ได้คิดจะทำร้ายเขาเลย แต่มีนักข่าวเอาไปเชื่อมโยงเป็นประเด็นจริง ๆ และหนูก็อยากจะกราบขอโทษอีกครั้ง หนูไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นข่าว หนูไม่ได้ตั้งทำร้ายใครแล้วก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีจริง ๆ นะคะ"

ถ้าสมมุติเขาออกมาแถลงข่าวยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นอย่างที่เราเขียนละ ?
"ถ้าเขาไม่ได้เป็นหนูก็ขอโทษด้วยละกันค่ะ ที่หนูโพสต์ไปหนูก็มีข้อมูลแต่ไม่แน่ใจว่ามันจริงหรือไม่จริงแต่หนูก็โพสต์ ซึ่งสิ่งที่หนูเขียนหนูก็ไม่ได้ระบุชื่อเขาเลย แต่ก็ยังมีคนร้อนตัว จนเป็นข่าว"

ผู้จัดการเขาออกมาตอบโต้เราเห็นหรือยัง ?
"เห็นแล้วค่ะ อินบ็อกมาทางเฟสบุ๊ค"

เขามีท่าทีว่าปรี๊ดหรือโมโหเราบ้างไหม?
"เขาก็บอกว่าต่างคนต่างอยู่ หนูบอกว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วจะมาร้อนตัวทำไม หนูก็พูดกับเขาดี ๆ แต่ก็หมดความศรัทธา เพราะว่าคำที่เขาใช้มันหยาบมาก แต่บอกไว้ตรงนี้เลยว่าหนูไม่นับญาติพี่เขาแล้ว หนูไม่ได้ทำไรให้เขาเลย แทนที่จะพูดกับหนูดี ๆ แต่ที่ไหนได้กลับพูดแย่มาก หนูแทบช็อคเพราะหนูไม่เคยได้ยินคำพวกนี้"

ส่วนตัวเราคิดว่าเรื่องนี้จะจบกันด้วยดีไหม ?
"หนูอยากให้มันจบด้วยดี ถ้ามีโอกาสก็อยากคุยกับเขาส่วนตัว อยากจะขอโทษเขา เพราะเรื่องนี้หนูเป็นต้นเหตุจริง ๆ"

ถ้าคุยส่วนตัวแล้วเคลียร์กันลงตัวแล้วจะเป็นยังไง เป็นเพื่อนสาวหรือเปล่า ?
"ไม่ค่ะพี่ เป็นเพื่อนกันต่อไหมไม่รู้ แต่ว่าหนูอยากเคลียร์ ตรงที่หนูออกมาโพสต์ว่าโดนเกย์หลอกคบอันนี้หนูอยากจะขอโทษจากปากหนู แต่ถ้าเขาเป็นจริง ๆ หนูก็อยากจะขอโทษที่ทำให้ข่าวออกมากระทบถึงเขา ไม่อยากให้มีผลกระทบต่องานเขาด้วย"