หนุ่มแฉถูกฟันเลือดท่วม รพ.ดังเมินบอก "ไม่ฉุกเฉิน"

หนุ่มแฉถูกฟันเลือดท่วม รพ.ดังเมินบอก "ไม่ฉุกเฉิน"

หนุ่มแฉถูกฟันเลือดท่วม รพ.ดังเมินบอก "ไม่ฉุกเฉิน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(24 ม.ค.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ นำเสนอข่าว กรณี นายรัฐพล หัทยาภิชาติ อายุ 25 ปี อาชีพสถาปนิก ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังเดินไปยังท่ารถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ พอถึงใต้สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จู่ๆ มีคนร้ายเป็นชาย ปรี่เข้ามากระชากโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จากมือตนไป ตนพยายามต่อสู้จึงเกิดการชกต่อยกันชุลมุน

ระหว่างนั้นคนร้ายได้ชักมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 1 ฟุต ออกมาฟันใส่หลายครั้ง หลังจากตนได้รับบาดเจ็บ คนร้ายก็ทิ้งมีดแล้วรีบวิ่งถือโทรศัพท์ของตนไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป แต่ตนรีบวิ่งตามไปล็อกคอทางด้านหลัง พร้อมทั้งตะโกนให้คนช่วยเหลือหลายครั้ง

กระทั่งมีผู้ชายวัยกลางคนถือไม้กวาดเข้ามาจะช่วยตีคนร้าย แต่คนร้ายก็ตะโกนขู่ว่า "กูมีปืนนะ" ตนจึงล็อกคอแรงขึ้นอีก จนคนร้ายยอมพูดว่า "กูให้คืนแล้ว" จากนั้นก็ทิ้งโทรศัพท์มือถือแล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางซอยรางน้ำ ต่อมาพลเมืองดีได้แจ้งตำรวจแล้วมีรถพยาบาลเข้ามานำตัวส่ง รพ.โดยมีบาดถูกฟันที่แขนขวา เอ็นข้อมือขาด ต้นแขนซ้าย และต้นขาขวา แพทย์จึงต้องเย็บทั้งหมดประมาณ 60 เข็ม

นายรัฐพลเผยอีกว่า เมื่อไปถึงโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ตนซึ่งมีบาดแผลถูกฟันจนเลือดท่วมตัว กลับต้องนอนรอรับการรักษานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยที่พยาบาลทำแค่เพียงให้น้ำเกลือ และใช้ผ้าพันแผลไว้เท่านั้น แม้ว่าตนจะร้องขอยาแก้ปวดพยาบาลก็ไม่ให้ เมื่อสอบถามพยาบาลก็ได้รับคำตอบว่า เคสของตนไม่ฉุกเฉิน ต้องรอไปก่อนตนรู้สึกไม่พอใจเป็น เพราะหากถูกฟันเลือดท่วมแบบนี้ไม่ฉุกเฉิน ต้องรอให้หนักแค่ไหนถึงจะเรียกว่าฉุกเฉิน จากนั้นตนจึงได้ขอย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งย่านพญาไทแทน

สอบถามไปยัง นายแพทย์อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการรพ.ราชวิถี เผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมชี้แจงว่า กรณีของนายรัฐพลเป็นกรณีฉุกเฉินแน่นอน แต่ขณะนั้นโรงพยาบาลมีเคสฉุกเฉินที่มาถึงก่อนหน้า ทำให้ห้องผ่าตัดไม่ว่าง เจ้าหน้าที่จึงต้องให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ โดยพันแผลห้ามเลือดเอาไว้ และนอนรอไปก่อน และที่ไม่ได้ให้ยาแก้ปวดเพราะอาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัด

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เคสนี้ไม่ฉุกเฉิน น่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด หรือไม่เจ้าหน้าที่ก็อาจกำลังวุ่นวายกับคนไข้ที่มีเข้ามามากจึงพูดจาไม่เข้าหู ยืนยันว่าทางรพ.เต็มใจที่จะดูแลรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่ผู้บาดเจ็บแจ้งรถกู้ภัยว่าต้องการไปที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ตั้งแต่แรก แต่รถพยาบาลของศูนย์นเรนทรกลับพามาที่รพ.ราชวิถี นั้นยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นความหวังดีของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากรพ.รัฐมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเอกชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook