กรณ์-สนั่นเชิญม็อบชาวนาคุยในทำเนียบยอมควัก 600 ล้านช่วยซื้อที่ดินดึงงบปี 53 ซื้อหนี้1.69 หมื่นล.

กรณ์-สนั่นเชิญม็อบชาวนาคุยในทำเนียบยอมควัก 600 ล้านช่วยซื้อที่ดินดึงงบปี 53 ซื้อหนี้1.69 หมื่นล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ม็อบชาวนาขู่ค้างคืน-ปลูกข้าวในทำเนียบ กรณ์-สนั่นไปเชิญแกนนำขึ้นมาเจรจายอมควัก 600 ล้านช่วยซื้อที่ดินต่อสายถึงนายกฯรับปากจะช่วยหาทุกวิถีทางเพื่อแก้ไข ดึงงบปี 53 ซื้อหนี้1.69 หมื่นล. เกษตรกรพอใจย้ายไปลานพระรูปรอคำตอบ ที่ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กว่า 1,000 คน เดินทางไปปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบ ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ ตรงข้ามสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 มกราคม พร้อมทำปิดถนนพิษณุโลก ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยผู้ชุมนุม เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มารับข้อเสนอเพียงคนเดียว

ขู่ค้างคืน-ปลูกข้าวในทำเนียบ

กระทั่งเวลา 14.30 น. นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมเชิญแกนนำ 7 คน ขึ้นไปเจรจาบน ชั้น 3 ของตึกบัญชาการ ขณะที่กลุ่มเกษตรกรยังคงปักหลักเฝ้ารอผลการเจรจา และขู่ว่าหากไม่เป็นที่พอใจก็จะขอปักหลักค้างคืนในทำเนียบ 1 คืน และอาจจะไปขอปลูกข้าวเหมือนกับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยทำ

จากนั้น เวลา 15.35 น. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เดินทางมาร่วมเจรจาด้วย โดย พล.ต.สนั่นให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเจรจา ว่า แนวทางการฟื้นฟูให้เกษตรมีที่ดินทำกินมีโอกาสเป็นไปได้ ที่ผ่านมามีเหตุติดขัด เนื่องจากธนาคารกับเกษตรกรตกลงกันไม่ได้ เพราะบางครั้งพอให้เงินเกษตรกรไปก็นำไปใช้อย่างอื่นหมด ขณะนี้กองทุนฟื้นฟูฯมีงบประมาณที่จะช่วยเหลือประมาณ 800 ล้านบาท แต่เงินที่จะเข้าไปดูแล ต้องใช้ 20,000 ล้านบาท ต้องให้กระทรวงการคลังไปศึกษาดู ว่าจะนำงบประมาณส่วนที่เหลือมาจากไหน ทั้งนี้ เกษตรกรที่จะช่วยมี 3 แบบ คือเกษตรกรที่เป็นเอ็นพีแอล เกษตรกรที่ขอซื้อหนี้คืน และเกษตรกรที่หนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีหรือรอคำตัดสิน

ยอมควัก 600 ล้านช่วยซื้อที่ดิน

จนเมื่อเวลา 16.40 น. นายกรณ์เปิดเผยภายหลังการหารือกับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ว่า รัฐบาลพร้อมจะให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับกลุ่มเกษตรกรอยู่แล้ว เพราะนโยบายการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก่อนหน้านี้ และระหว่างการหารือได้ต่อสายไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯย้ำว่า ให้หาทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินให้เกษตรกรโดยเร็ว

นายกรณ์กล่าวว่า ในการเข้าไปรับซื้อหนี้ของเกษตรกรเบื้องต้นได้ข้อยุติว่า สำหรับปัญหาเฉพาะหน้าในการเข้าไปรับซื้อที่ดินของเกษตรกรที่กำลังจะถูกขายทอดตลาด วงเงินกว่า 600 ล้านบาท จะนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 28 มกราคมนี้ หากที่ประชุมเห็นชอบ กระทรวงการคลังจะจัดหาแหล่งเงินงบประมาณ อาจจะนำงบประมาณของกองทุนฟื้นฟูฯออกมาใช้ก่อน จากนั้น รัฐบาลค่อยตั้งงบประมาณชดเชยอีกครั้ง

ดึงงบปี 53 ซื้อหนี้1.69 หมื่นล.

นายกรณ์กล่าวว่า ส่วนหนี้สินที่เหลืออยู่อีก 16,900 ล้านบาท จะเสนอที่ประชุม ครม. เกี่ยวกับกรอบและแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบอีกครั้ง ทั้งการเข้าไปซื้อหนี้ การฟื้นฟูอาชีพ รวมถึงการฝึกอบรมอาชีพเกษตรกรรุ่นใหม่ด้วย โดยแหล่งเงิน 16,900 ล้านบาท คงจะมุ่งไปที่การตั้งงบประมาณ ปี 2553 หรือหากระหว่างทางสามารถจัดแหล่งเงินจากไหนมาได้ก็จะใช้ แต่เรื่องนี้จะต้องคิดให้รอบคอบ เพราะต้องยอมรับว่าการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะตึงตัวเหมือนกัน

นายกรณ์กล่าวว่า ได้รับข้อมูลด้วยว่า การบริหารงานของกองทุนฟื้นฟูฯที่ผ่านมามีปัญหา โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขาธิการกองทุนฯถึง 17 คน ส่งผลให้การซื้อหนี้ประสบปัญหาล่าช้ามาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหากันต่อไป เพื่อให้กองทุนฯกลับมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่รัฐบาลยินยอมแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรทั้งหมด หลังยกขบวนมาปิดล้อมสถานที่สำคัญ จะกลายเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาให้เกษตรเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องดำเนินการ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือทางกองทุนฯจะตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องเรื่องหนี้สินของเกษตรกรอยู่แล้ว เมื่อถามว่า หลังได้ข้อตกลงเรื่องนี้แล้ว เกษตรกรรับปากว่า จะกลับเลยหรือไม่ นายกรณ์กล่าวว่า เป็นผม ผมก็คงไม่กลับ ต้องอยู่รอจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน

เกษตรกรพอใจย้ายไปลานพระรูป

นายชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการเจรจากับนายกรณ์ว่า ผลการเจรจาเป็นที่น่าพอใจ รัฐบาลรับปากว่าจะนำเรื่อเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 28 มกราคมนี้ โดยจะช่วยซื้อคืนที่ดินที่จะถูกขายทอดตลาด จำนวน 600 ล้านบาท ส่วนอีก 16,900 ล้านบาท จะนำเข้า ครม. ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์

เมื่อรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ โฉนดที่ดินจะตกเป็นของรัฐบาล และเกษตรกรจะทำสัญญาเช่าซื้อและผ่อนกับรัฐบาล โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ต่างจากเดิมที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี และลดเงินต้นให้ครึ่งหนึ่ง ถ้าเป็นเช่นนี้จริง จะทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนพอมีเวลาได้หายใจบ้าง นายชรินทร์กล่าว

นายชรินทร์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มไม่เชื่อใจรัฐบาลมากนัก ดังนั้น ยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมต่อไปจนถึงวันที่ 28 มกราคมนี้ หลังจากนั้น ทางกลุ่มจะปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง แต่จะเดินทางมาชุมนุมอีกในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ก่อนการประชุม ครม.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ด้วย

กระทั่งเวลา 17.00 น. แกนนำเกษตรกรประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงสลายการชุมนุม โดยจะไปชุมนุมรอฟังผลการพิจารณาของ ครม. ในวันที่ 28 มกราคมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าแทน จากนั้น จึงรื้อเวทีชั่วคราว และเดินทางออกจากทำเนียบไปปักหลักที่ลานพระบรมรูปฯ

ก.เกษตรฯขอ1.4 พันล.ซื้อที่ดินแจก

วันเดียวกัน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค ที่มาปักหลักชุมนุมประท้วงที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรฯ ว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หาทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับกลุ่มเกษตรกรจากสภาประชาชน 4 ภาค โดยเร็ว จึงเชิญตัวแทนเกษตรกรมาหารือ และได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ

นายชาติชายกล่าวว่า ในส่วนปัญหาที่ดินทำกิน ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าไปสำรวจ จัดหาและจัดซื้อที่ดินทำกิน ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เกษตรกรผู้มีสิทธิจะต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับการจัดสรรที่ดินจาก ส.ป.ก.มาก่อน รวมทั้งต้องมีพื้นฐานในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาจัดสรรให้ไม่เกินคนละ 15 ไร่ รวมจำนวนเกษตรกรที่ยื่นขอความช่วยเหลือในนามของสภาประชาชน 4 ภาค 1,889 คน ที่ดินประมาณ 4 หมื่นไร่ เฉลี่ยไร่ละไม่เกิน 60,000 บาท คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณรวม 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะมีการประเมินราคาที่ดินและดำเนินการทุกขั้นตอนให้มีความโปร่งใส

จะนำข้อสรุปดังกล่าวเสนอที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงจัดสรรแหล่งงบประมาณ เนื่องจากเป็นเกษตรกรกลุ่มใหญ่ ใช้งบประมาณปกติของ ส.ป.ก.อาจไม่เพียงพอ นายชาติชายกล่าว

เกษตรกร4ภาคชุมนุมต่อรอผล

นายอุทัย ปรีชา โฆษกกลุ่มเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค กล่าวว่า แม้กระทรวงเกษตรฯรับปากว่าจะช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน โดยให้ ส.ป.ก.ไปจัดซื้อที่ดินมาจัดสรรให้รายละ 15 ไร่ แต่กลุ่มเกษตรกรจะยังคงปักหลักที่หน้ากระทรวงเกษตรฯต่อไป จนกว่าข้อเสนอทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะผลการพิจารณาของที่ประชุม ครม. ในวันที่ 28 มกราคมนี้ ที่กระทรวงเกษตรฯรับปากว่าจะนำเรื่องนี้เสนอ

นายอุทัยกล่าวว่า สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่ไปปิดล้อมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาค เพราะกลุ่มของตน จะปักหลักอยู่แค่บริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรฯเท่านั้น ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน

ม็อบหนี้สินชาวนาบุกทำเนียบ

เมื่อเวลา 11.30 น. เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กว่า 1,000 คน เดินทางไปปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบ ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ ตรงข้ามสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พร้อมทำปิดถนนพิษณุโลก ทั้ง 2 ฝั่ง เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยผู้ชุมนุม เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มารับข้อเสนอเพียงคนเดียว ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เดินทางไปรับข้อเสนอเนื่องจากติดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนแกนนำรัฐบาลคนอื่น ก็ไม่อยู่ในทำเนียบ เนื่องจากติดประชุมสภาเช่นกัน

นายชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องการเจรจากับนายอภิสิทธิ์เท่านั้น โดยให้รัฐบาลทำสัญญาเป็นลายลักษ์อักษร ไม่เช่นนั้นทางกลุ่มจะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป

ต่อมาเวลา 14.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกแผงกั้นหน้าประตู 1 ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐออก จากนั้นแกนนำที่ปราศรัยอยู่บนรถขยายเสียง ประกาศเรียกให้ผู้ชุมนุมเดินเข้าภายในทำเนียบ โดยสามารถเข้ามาได้ภายในทำเนียบชั้นนอก บริเวณถนนซึ่งติดกับรั้วทำเนียบชั้นในที่กั้นบริเวณพื้นที่อาคารสำคัญ อาทิ ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกบัญชาการ โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามเดินเข้าไปถึงชั้นใน แต่ถูกห้ามปรามทั้งจากตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบ และแกนนำเกษตรกรเอง จึงหันมาปักหลักชุมนุมบริเวณถนนที่ติดกับรั้วชั้นในแทน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาควบคุมสถานการณ์กว่า 50 นาย นับว่าเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มแรกที่บุกเข้าไปในพื้นที่ทำเนียบ สำหรับรัฐบาลชุดปัจจุบัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook