ตะลึงแค่ 6 เดือน ตรวจพบ จนท.รัฐงาบ-เงินขาดบัญชี 1,200 เรื่องกว่า 3,200 ล้าน-ระดม8หน่วยงานแก้ปัญหา
เอกสารระบุว่า การจัดจัดสัมมนาดังกล่าวเนื่องจากตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเร่งรัด ติดตามเกี่ยวกับกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต พ.ศ.2546 กำหนดให้ สปน.เป็นหน่วยงานกลางในการเร่งรัด ติดตามหน่วยงานของรัฐที่เกิดกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยข้องโดยเคร่งครัด ทั้งทางแพ่ง ทางอาญาและทางวินัย ซึ่งจากรายงานผลการดำเนินการเร่งรัด ติดตามกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551(ตุลาคม 2550-มีนาคม 2551) ผลปรากฏว่า มีเรื่องที่อยู่ระหว่างการเร่งรัดติดตามประมาณกว่า 1,200 เรื่อง จำนวนเงินที่เสียหายประมาณ 3,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่า ก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น การที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาเงินขาดบัญชีและการทุจริตประพฤติมิชอบได้นั้น เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย/ระเบียบ/มติคณะรัฐมนตรี/คำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงบประมาณ และทราบแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต รวมทั้งต้องมีความตระหนัก และระมัดระวังรอบคอบในการกำกับ ดูแล หรืออนุมัติการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เป็นไปอย่างถูกต้องโปร่งใส จึงจัดสัมมนาดังกล่าวขึ้น
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 หน่วยงาน คือ กรมบัญชีกลาง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งภายในงานจะมีการบรรยายเรื่อง การใช้เงินแผ่นดินและการป้องกันแก้ไขข้อผิดพลาด บทบาทและภารกิจของหน่วยงานกับการป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง ปัญหา/อุปสรรคในการปฏิบัติระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการซักถามปัญหาและตอบข้อซักถามจากวิทยากรด้วย