ปปช.ไร้กม.ตรวจบัญชี คสช. -ตั้งสอบทรัพย์สิน5รมต.

รองเลขาฯ ป.ป.ช. เผยชื่อ 5 รมต. ยังไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลังพ้นสภาพ 'ยิ่งลักษณ์ ประชา กิตติรัตน์ ปลอดประสพ สันติ ' ตั้งอนุกรรมการสอบทรัพย์สิน เอี่ยวโกงจำนำข้าว พร้อมระบุ ไร้อำนาจตรวจสอบทรัพย์สิน คสช.

นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง การเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสภาพ ซึ่งครบกำหนดวันยื่นบัญชีภายในวันนี้ (5 พ.ค.) เวลา 16.30 น. โดยมีรัฐมนตรีที่ยังไม่ยื่นบัญชีจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม หากทั้ง 5 ราย ไม่มายื่นภายในวันนี้ ก็สามารถส่งหนังสือชี้แจงมาภายหลังได้ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมาพิจารณาว่า มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ หรือเป็นการจงใจไม่ยื่นภายในเวลาที่กำหนดหรือไม่

ทั้งนี้ สำหรับรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศควบคุมอำนาจการปกครอง จะครบกำหนดยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้

นายวรวิทย์ ยังกล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยมอบหมายให้ นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
ทรัพย์สินและประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นการตรวจสอบในเชิงลึก ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มมีการประชุมเพื่อดำเนินการไต่สวนในสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ นายวรวิทย์  กล่าวถึงการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่ ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไม่ได้กำหนดไว้ ว่า ให้ คสช. ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ทาง ป.ป.ช. จึงไม่มีอำนาจตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว

นอกจากนี้ สำหรับกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2557 ว่า พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ร่ำรวยผิดปกติ จำนวนเงิน 296.3 ล้านบาท พร้อมให้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้ทรัพย์สินจำนวนดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งล่าสุด อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ศาลพิจารณาให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินแล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายวรวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวอิศราได้เสนอข่าวเกี่ยวกับนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาท ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2556 ว่าเหตุใดนาฬิกาดังกล่าวจึงไม่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำนักงานงาน ป.ป.ช. ได้สรุปข้อเท็จจริงพร้อมทั้งความเห็นเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว คาดว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะประชุมเพื่อพิจารณา ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิ.ย. นี้