มาร์คลั่นคลอดกม.ภาษีที่ดิน-มรดกรบ.นี้ พท.ชี้พล่านหาเงินถังแตกเผยส.ส.ปชป.มีที่ดินรวมหมื่นไร่

มาร์คลั่นคลอดกม.ภาษีที่ดิน-มรดกรบ.นี้ พท.ชี้พล่านหาเงินถังแตกเผยส.ส.ปชป.มีที่ดินรวมหมื่นไร่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกฯ สนับสนุนออกกฎหมายภาษี ที่ดิน-มรดก ลั่นคลอดให้ทันรัฐบาลชุดนี้ เพื่อไทย กระหน่ำพล่านหาเงินเพราะถังแตก หมิ่นปชป.ไม่กล้าหักส.ส.-นายทุนพรรค เผยส.ส.ปชป.รวมกันที่ดินร่วมหมื่นไร่ ตระกูลศิลปอาชา มี 243 แปลง 2 พันไร่ นายกฯประกาศเดินหน้าภาษีที่ดิน-มรดก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และ พ.ร.บ.ภาษีมรดก เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล ตามแนวคิดของนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยยอมรับว่าไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งนี้ อาจมีปรับเปลี่ยนในรายละเอียด เช่น ยกเว้นการเก็บภาษีสำหรับผู้ที่มีความจำเป็น เช่น ที่อยู่อาศัย และเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าสำหรับผู้มีที่ดินว่างเปล่าที่ทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 มกราคม ว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีมรดก เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบภาษี แต่ทั้ง 2 เรื่องยังมีรายละเอียดที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ อย่างกรณีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอาจจะซับซ้อนมากนัก เพราะมีแนวคิดเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องดูให้รอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด โดยหลักใหญ่อยู่ที่ว่าจะเป็นการทำให้ภาษีโรงเรือนกับภาษีบำรุงท้องที่มารวมกันและมีเหตุมีผลมากขึ้น เป็นรายได้ที่จะเป็นกอบเป็นกำมากขึ้นสำหรับท้องถิ่น แต่ต้องยกเว้นให้กับคนที่มีความจำเป็น เช่นที่อยู่อาศัย และบัญญัติให้เสียภาษีอัตราก้าวหน้าสำหรับคนที่มีที่ดินว่างเปล่าแต่ทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ส่วนภาษีมรดกต้องมาดูว่าจะเก็บกันอย่างไร มีข้อยกเว้นอย่างไร เพราะในต่างประเทศมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภาษีมรดกตลอดเวลา แต่ในภาพรวมของการปฏิรูปภาษีนั้นจะเดินต่อ ซึ่งคงไม่สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นๆ

หลายๆ เรื่องที่หยิบยกขึ้นมาจะมีการดำเนินการ แต่อาจจะไม่รวดเร็ว เหมือนกับการพูดเรื่องปฏิรูปที่ดิน ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเร่งรัดอะไรในช่วงนี้ เพราะต้องใช้เวลาดูให้รอบคอบ และไม่เกิดปัญหาตามมานายกฯระบุ

อภิสิทธิ์ บอกพร้อมอธิบายชนชั้นกลาง-สูง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกฎหมายตัวนี้ออกมาจะกระทบกับคนชั้นกลางและชนชั้นสูง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างที่เราต้องทำหลายเรื่อง ซึ่งต้องอธิบาย และผมคิดว่าคนที่ไดรับผลกระทบจะเข้าใจว่าเราทำไมต้องทำแบบนี้ อย่างกรณีภาษีที่ดินหรือภาษีทรัพย์สินเราก็ต้องยอมรับว่า จุดสำคัญของความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมก็เริ่มจากการที่ทรัพย์สินกระจายไปไม่เท่าเทียมกัน หากได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงเราก็เข้าใจ แต่ถ้าได้มาในลักษณะของการสะสมเอาไว้เฉยๆ ในขณะที่คนจำนวนมากยังมีความต้องการ อาทิ คนมีที่ดินมหาศาลทิ้งไว้รกร้างว่างเป่า ในขณะที่เราต้องแก้ไขปัญหาเรื่องที่ทำกินให้กับประชาชน ก็ไม่เป็นธรรมกับสังคมโดยรวม

นายกฯบอกตั้งเป้าคลอดให้ทันรัฐบาลชุดนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะที่รัฐบาลเร่งนำเสนอนโยบาย แต่ในทางการเมืองดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถจัดการได้ จนนโยบายหลายอย่างอาจจะไม่ได้ออกมาใช้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีผู้สูงอายุนั้นเราสามารถดำเนินการต่อได้ เพราะมีระเบียบอยู่ แต่ถ้าต้องแก้ไขกฎหมายก็จะเป็นการปรับโครงสร้าง ซึ่งในวันที่ 25 มกราคม จะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก็คงจะย้ำให้มีความเข้มแข็งในการผลักดันเรื่องนี้ เพื่อให้การเมืองมีความเข้มแข็ง เมื่อเป็นสิ่งที่ดีก็ต้องพยายามทำ แต่จะทำได้หรือไม่ได้ ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบทางการเมือง ในอดีตมีกฎหมายหลายฉบับที่บอกกันว่าอาถรรพ์ แต่สุดท้ายก็ผ่านได้ กฎหมาย 2 ฉบับนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะให้ออกให้ทันในรัฐบาลชุดนี้แล้วเราก็ต้องเดินต่อ หากผลักดันไม่ได้ก็ต้องดูว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร หากกฎหมายสำคัญไม่ผ่านสภา รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองอยู่แล้วและก็มีหลายวิธีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

ไม่สนใจ พิเชษฐ์ คัดค้าน-ชี้เป็นนโยบาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่มีทรัพย์สินและที่ดินมากๆ คือนักการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยิ่งแสดงให้เห็นว่าการที่รัฐบาลเดินหน้าเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง และเป็นประโยชน์ของส่วนร่วม หากคนในพรรคประชาธิปัตย์มีที่ดินจำนวนมากก็ต้องยอมรับกติกา ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบฐานเสียงของพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราก็ต้องดูให้ครบทุกด้าน แต่รัฐบาลก็กำลังขยายเรื่องของสวัสดิการให้กับประชาชนเพิ่มเติมขึ้น และเป็นระบบก็ต้องมีรายได้เข้ามามากขึ้น ซึ่งต้องมองทั้ง 2 ด้าน ฉะนั้น การดูแลปรับปรุงระบบสวัสดิการของคนกลุ่มต่างๆ ให้ดีขึ้นก็ต้องมีฐานภาษีที่กว้างกว่าเดิม ซึ่งมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจเพราะทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล และไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรือประโยชน์ของพวกพ้อง แต่ทำเพื่อสังคม ซึ่งขณะนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง กำลังดูในรายละเอียดอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพรรคประชาธิปัตย์อาจจะมีคนไม่เห็นด้วยกับการผลักดันกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา เพราะตอนทำนโยบายพรรคได้พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว หากผ่านออกมาเป็นกฎหมายทุกคนก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนหรืออาชีพอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายพิเชษฐ์เคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ เป็นรัฐมนตรีคลัง และนายพิเชษฐ์เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องมีกระบวนการทำความเข้าใจและเอาข้อเท็จจริงไปให้สมาชิกพรรคดูจะได้สบายใจ อย่างไรก็ตาม ภาษีที่ดินไม่มีปัญหา แต่ภาษีมรดกนั้นจะยาก เพราะมีข้อโต้แย้งในการยกร่างอยู่หลายเรื่อง อาจจะต้องเขียนข้อยกเว้นและวิธีปฏิบัติให้รัดกุม ส่วนภาษีที่ดินและทรัพย์สินเคยทำมาแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับลูกเร่งศึกษากฎหมาย

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เท่าที่ทราบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึง ร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก ดังนั้น กระทรวงการคลังจะเร่งศึกษาและปรับปรุงในรายละเอียดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยขณะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า จะสามารถผลักดันกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ได้จริงภายในรัฐบาลชุดนี้ ส่วนอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินมีการกำหนดไว้เป็นแนวทางเท่านั้น โดย สศค.จะต้องไปพิจารณามาใหม่ แต่หลักการในต่างประเทศมักจะเก็บจากพื้นที่ที่เจ้าของทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ส่วนที่อยู่อาศัยจะจัดเก็บในอัตราที่ต่ำ หรือบางประเทศก็จะยกเว้นในส่วนที่มีการอยู่อาศัยจริง เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนระดับล่าง

กรณ์ ยอมรรับปีนี้เศรษฐกิจส่อเค้าเหลือ0%

นายกรณ์ยังกล่าวยอมรับว่า ปีนี้มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวใกล้เคียง 0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดไว้ และกระทบกับการส่งออกของไทย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่กังวลเรื่องปัญหาเงินฝืด แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะระบุว่า อัตราเงินเฟ้อปีนี้มีโอกาสที่จะติดลบ และมั่นใจมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศออกมาจะสามารถทดแทนอุปสงค์ที่ปรับลดลงได้แน่นอน โดยรัฐบาลได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกรอบเป้าหมายการดูแลอัตราเงินเฟ้อปีนี้ที่ 0.5-3% ตามที่ ธปท.เสนอ ถือว่าเป็นกรอบที่สามารถยอมรับได้

ส.ส.ภูเก็ตพรรคประชาธิปัตย์หวั่นไม่ผ่านสภา

นายทศพร เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและที่ดินในจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีที่ดิน เพราะปกติก็จ่ายภาษีโรงเรือนอยู่แล้ว อีกทั้งภาษีที่เก็บใหม่ก็เป็นเงินน้อยนิด คนที่นำที่ดินไปทำประโยชน์น่าจะมีเงินจ่ายอยู่แล้ว แต่คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นพวกที่เก็บที่ดินไว้เปล่าๆ ไม่ทำอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่ากฎหมายจะผ่านสภาได้หรือไม่ เพราะคนที่คิดแบบตนมีไม่มากนัก

การผลักดันช่วงเวลานี้อาจไม่เหมาะ เพราะชาวบ้านหลายคนเข้ามาถามว่า ราคาพืชผลยังไม่ค่อยดี แล้วจะมาเก็บภาษีที่เพิ่มอีกหรือ ดังนั้น ก่อนจะผลักดันกฎหมายฉบับนี้ออกมาต้องถามความเห็นชาวบ้านด้วยนายทศพร

อดีตรัฐมนตรีว่าการเกษตรแนะอย่าให้กระทบเกษตรกร

ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เห็นด้วย ทั้งนี้ ตนเคยพยายามผลักดันสมัยที่มีต่างชาติจะเข้ามาใช้พื้นที่ผลิตพลังงานทดแทน ทั้งนี้ การใช้พื้นที่การเกษตร ไปทำอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ ก็ควรเก็บภาษีเพิ่มขึ้น หรือใครมีที่ดินเกินกว่าวัตถุประสงค์ทำการเกษตร ก็ควรเก็บเพิ่ม ส่วนการใช้พื้นที่เพื่อการเกษตร ไม่ควรเก็บภาษีเพิ่ม นอกจากนี้ การออกกฎหมายต้องรัดกุม อย่าให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อยที่มีที่ดิน 5 ไร่ 10 ไร่ ถ้ารัฐบาลตัดสินใจทำ ต้องเดินหน้า และต้องมีหลักเกณฑ์การเก็บอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่ไปยกเว้นให้นายทุน หรือหัวคะแนน ทั้งนี้ เรื่องที่ดินสำคัญมากสำหรับการเกษตร สามารถเป็นหนทางนำประเทศพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่หมุนเวียน

อดีตรมต.คลังปชป.เตือนกรณ์ปากไวระวังเจ็บ

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 2 สมัย กล่าวถึงกรณีที่แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดของนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลังที่จะจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดก ว่า ตนไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพียงแต่ให้ข้อมูลว่าภาษีมรดก กรมสรรพากรทำการศึกษามาโดยตลอด แต่ที่ไม่ผลักดันต่อ เนื่องจากพบว่าเงินภาษีที่ได้มีจำนวนน้อยนิด แต่ส่งผลกระทบต่อสังคม ตัวอย่างกรณีที่ลูกหลานขอให้เจ้าของทรัพย์สินโอนทรัพย์สินให้ก่อนเสียชีวิต สุดท้ายก็ถูกลูกหลานทิ้งไป อยากให้นายกรณ์ลองไปมองว่าถ้าภาษีมรดกดีจริง ทำไมประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษจึงเตรียมจะยกเลิกมาตรการแบบนี้ ส่วนภาษีที่ดิน ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีการจัดเก็บภาษีที่ดินและโรงเรือนอยู่แล้วทุกปี ถ้าส่วนกลางจะเก็บภาษีที่ดินอีก ต้องศึกษาให้ดีว่าซ้ำซ้อนกันหรือไม่

มาตรการด้านภาษีต้องรอบคอบ มีวินัย และมีข้อมูล คุณจะเห็นว่าคนเก่งๆ ไปตายที่กระทรวงคลังเยอะมาก เพราะความคิดง่ายๆ ที่พูดออกไปก่อน ถ้าเรื่องนี้นายกรณ์ทำไม่ได้อย่างที่พูดถามว่าเจ็บตัวไหม คุณกรณ์อาจจะมาใหม่ แต่อยากเตือนว่าทุกอย่างถ้ายังไม่ชัดเจนจะพูดออกไปไม่ได้ นายพิเชษฐกล่าว

ทิวา ชี้ล้มลุกคลุกคลานมากว่า30ปี

นายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมาย กล่าวว่า การเก็บภาษีที่ดินและมรดกไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะถกเถียงมาตั้งแต่ปี 2518 สมัย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ถ้านายกรณ์ วาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง จะผลักดันต้องพิจารณาผลกระทบให้รอบคอบ โดยภาษีที่ดิน จะต้องดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังใจต่อการทำธุรกิจ ขณะที่ภาษีมรดกก็จะต้องพิจารณาถึงผลกระทบเช่นเดียวกัน

การออกฎหมายทั้งสองฉบับนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องหาจุดเหมาะสมว่าควรทำหรือไม่ ส่วนจะจัดเก็บภาษีในอัตราเท่าไรเป็นเรื่องของอนาคต ขณะนี้พรรคยังไม่ได้เตรียมร่างกฎหมายทั้งสองฉบับเอาไว้ เพราะยังหาข้อสรุปไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2518 แล้ว นายทวากล่าว และว่า สาเหตุที่นายกรณ์ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องของการจัดเก็บรายได้ เพราะเงิน 3 แสนล้านบาทที่นำมากระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเงินของรัฐบาลแทบทั้งสิ้น

เพื่อไทยอัดรบ.พล่านหลังถังแตก

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลัง ต้องรีบเร่งผลักดันกฎหมายเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกออกมา เนื่องจากรัฐบาลนี้ขยันใช้น้ำดับไฟ แต่หาน้ำไม่เป็น ก๊อบปี้นโยบายประชานิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาทุกด้าน แต่ไม่ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ใช้เงิน 3 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจจนเงินประเทศจะหมดแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปประเทศจะบรรลัยได้

นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง กล่าวว่า เป็นแนวคิดที่ดีและเป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นคนจน ตนและพรรคเพื่อไทยยินดีให้การสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ควรมีการจัดโซนนิ่งการเก็บภาษีให้รัดกุมโดยพื้นที่ที่มีที่ดินราคาแพงควรเก็บในอัตราที่สูงขึ้น อย่างแถวสุขุมวิท สีลม วิทยุ เยาวราช ควรเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าพื้นที่ที่อื่นๆ และควรแก้ไขปรับปรุงการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลไปพร้อมกันด้วย เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่มักจะทำบัญชี 2 เล่มเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โดยพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปห่วงว่าบริษัทไหนเป็นนายทุนของพรรค อย่างบริษัทซีพี หรือโตโยต้า ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีรายได้เยอะก็ควรเสียภาษีเยอะ

หยามมาร์คไม่กล้าหักนายทุนพรรค

กฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะเป็นการวัดใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่าจะกล้าทำเพื่อประชาชนคนยากจนหรือยังคำนึงถึงแต่ทุน และสมาชิกพรรค เพราะหากกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้ได้จริง นายอภิสิทธิ์ ซึ่งมีบ้านอยู่แถวสุขุมวิท ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มีบ้านอยู่แถวสุขุมวิท ก็จะต้องเสียสละ รวมทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ถือที่ดินไว้คนละนับร้อย นับพันไร่ อย่างใน จ.ภูเก็ต ที่บางคนมีที่ดินราคาแพงหูฉี่อยู่เป็นจำนวนมากก็ต้องเสียสละที่จะช่วยกันให้กฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้ นายสุรพงษ์กล่าว และว่า เชื่อว่ากฎหมายนี้ยากที่จะออกมาบังคับใช้ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ใจไม่ถึงพอที่จะหัก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และนายทุนพรรคได้ เพราะแค่ออกแนวคิดมา นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเป็นคนแรกแล้ว

แฉประชาธิปัตย์แลนด์ลอร์ดมีที่เกือบหมื่นไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี และ ส.ส.ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2551 ปรากฏว่า ตระกูลที่มีที่ดินมากที่สุดคือตระกูล ศิลปอาชา โดยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยและครอบครัว มีที่ดิน 243 แปลง รวมเนื้อที่ 2 พันไร่ มูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท ขณะที่ ส.ส.ปชป.มีที่ดินรวมกันเหยียบหมื่นไร่ โดยนายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ มีที่ดินมากที่สุด รวม 72 แปลง 436 ไร่ มูลค่า 803 ล้านบาท ตามมาด้วยนายทศพร เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต และนางอัญชลี ภรรยามีที่ดินรวมกัน 2,157 ไร่ แต่มีมูลค่าเพียง 240 ล้านบาท ส่วนม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. สมัยเป็น ส.ส.สัดส่วน ปชป. มี่ที่ดิน 61 แปลง 72 ไร่ มูลค่า 600 ล้านบาท สำหรับนายกรณ์คนที่ผลักดันเรื่องนี้ มีที่ดิน 18 แปลง 178 ไร่ มูลค่า 121 ล้านบาท ขณะที่นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ปชป. ที่ออกมาคัดค้านแนวคิดเก็บภาษีที่ดิน มีที่ดิน 22 แปลง 469 ไร่ มูลค่า 66 ล้านบาท

สำหรับ ส.ส.ฝ่ายค้าน นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช มีที่ดิน 74 แปลง 1,837 ไร่ มูลค่า 188 ล้านบาท ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย มีที่ดิน 18 แปลง 157 ไร่ มูลค่า 77 ล้านบาท พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน มีที่ดิน 11 แปลง 20 ไร่ 39 ล้านบาท

ส่วนบุคคในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ที่ร่ำรวยที่ดินที่สุด คือ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คู่คิดของนายกรณ์ มีที่ดิน 43 แปลง 877 ไร่ มูลค่า 580 ล้านบาท ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีที่ดิน 2 แปลง 15 ไร่ มูลค่า 19 ล้านบาท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีที่ดิน 50 แปลง 950 ไร่ มูลค่า 79 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook