ตร.แถลงจับ 'เต้ย หอมชง' จ้างฆ่ายกครัว 3 ศพ

ตร.แถลงจับ 'เต้ย หอมชง' จ้างฆ่ายกครัว 3 ศพ

ตร.แถลงจับ 'เต้ย หอมชง' จ้างฆ่ายกครัว 3 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 เม.ย.) เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แถลงข่าวกรณีเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุฆ่าผู้อื่นที่บ้านเลขที่ 1279 ริมถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 3 ราย พ.อ.วิชัย หอมชง นายทหารเกษียณอายุราชการ วัย 63 ปี ,นางวนิดา หอมชง ครูโรงเรียนราชวินิตประถม บางแค วัย 57 ปี และ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง หรือ หมวดเติ้ล พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน วัย 24 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของบ้าน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะจนเสียชีวิตภายในห้องนอนของแต่ละคน

จากการสืบสวนสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานจนเพียงพอ เจ้าหน้าที่อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ 5 คน และสามารถติดตามจับกุมได้แล้ว 4 คน ประกอบด้วย นายกิตตินันท์ หรือ เต้ย หอมชง อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กของครอบครัว ข้อหาร่วมกันจ้างวานใช้ฆ่าบุพการี,นายศักรินทร์ หรือ กอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี ข้อหาร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น,นายฉลาด หรือ ป๊อด เที่ยงธรรม อายุ 53 ปี และ นายสุระพงษ์ หรือ จ่าแอ๊ด ชูพันธ์ อายุ 47 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนผู้ต้องหาอีกราย นายสิริชัย หรือ ป้อม เพิ่มพูลศักดิ์ หลบหนีอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

โดยสาเหตุของการกระทำผิดเกิดจากนายกิตตินันท์ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน โกรธบิดาที่ดุด่าว่ากล่าวเรื่องการเรียนและความประพฤติ เพราะไม่ยอมเรียนหนังสือและไม่มีอาชีพ โดยนำไปเปรียบเทียบกับพี่ชาย ซึ่งเรียนหนังสือเก่งและมีอาชีพเป็นตำรวจ ประกอบกับนายกิตตินันท์ได้ออกจากบ้านไปอยู่กับนายศักรินทร์ ประมาณ 2 ปี ไม่ได้รับการดูแลทางการเงินจากครอบครัว จึงร่วมกันวางแผนกับนายศักรินทร์เพื่อจัดหามือปืนมาฆ่าพ่อ แม่ และพี่ชาย เพื่อแก้แค้นและให้ได้รับมรดกเป็นที่ดินประมาณ 4 ไร่ ซึ่งเป็นของครอบครัวมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

นายกิตตินันท์และนายศักรินทร์ ได้ร่วมกันติดต่อจ้างวานนายฉลาด นายสุระพงษ์ และนายสิริชัย เพื่อให้ลงมือฆ่าผู้ตายทั้งสาม โดยสัญญาว่าเมื่อได้รับมรดกแล้วจะให้ค่าจ้างนายฉลาดเป็นเงินสดและรถยนต์ จนกระทั่งนายฉลาดและพวกทั้งสามคนลงมือฆ่าผู้ตายทั้งสามก่อนหลบหนีไป แต่ถูกจับกุมได้ในที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหานายกิตตินันท์และพวกทั้ง 4 คน ว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนายกิตตินันท์ได้ถูกตั้งข้อหาฆ่าบุพการีอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่นายสิริชัยผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่นั้นตำรวจตั้งรางวัลนำจับ 5 แสนบาท และพบว่าเคยมีประวัติติดคุกคดีฆ่า และยิงสู้เจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้เหตุผลในการแถลงข่าวว่าเพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคม การกระทำผิดในลักษณะนี้อัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และการกระทำผิดนั้นย่อมมีร่องรอยหลักฐานยากที่ผู้กระทำผิดจะหลบหนีรอดพ้นจากการจับกุม จึงเป็นคดีตัวอย่างที่ผู้ที่คิดจะทำผิดในลักษณะนี้ควรยับยั่งชั่งใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook